โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs)

ขั้นเตรียมการ
1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ
3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร 4. จัดเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการอบรมแก่กลุ่มเป้าหมาย
ขั้นดำเนินการ
1.กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน
1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง
1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม
1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ
1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
(หลังการอบรม)
- ทำแบบทดสอบหลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 1 พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่
แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs”
พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพ
ประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน ได้จัดกิจกรรมวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม. และห้องประชุมดอกกระโดน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน โดยเชิญวิทยากรจาก โรงพยาบาลควนโดน คุณวิภาดา ม้องพร้า ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ (CM) เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน และมีวิทยากรอีกท่าน จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด คุณถนอมสิน หิรัญสถิตย์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน มีกิจกรรมดังนี้
1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้
ตนเอง สาธิต และทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปฏิบัติได้ โดยทุกคนมีคู่ “บัดดี้ NCDs” ช่วยเหลือกันในการทดลองปฏิบัติ 100 %
1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง ทุกคนมีความสนใจในการเรียนรู้ มีการถาม ตอบ สามารถทดลองปฏิบัติในแบบฝึกหัดได้ มากกว่า ร้อยละ 80
1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90
1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพสามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90
1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
(หลังการอบรม) ได้มีการหมุนเวียนกันลงไปฝึกปฏิบัติงาน ตามตารางการปฏิบัติงาน
1.6 ทำแบบทดสอบก่อน - หลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน(การสรุปผลแนบมาพร้อมนี้)
ระดับคะแนน น้อยกว่า 10 10 - 13 14 15 รวม
ก่อนอบรม 0 72 คน 27 คน 1 คน 100 คน
ระดับคะแนน น้อยกว่า 12 13 14 15
หลังอบรม 0 2 คน 33 คน 65 คน 100 คน
ร้อยละ 100 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้
(ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 100 ( 13 คะแนน ขึ้นไป)
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวน 100 คน
ค่า BMI จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ น้อยกว่า 18.00 1 1 นน.น้อย 18.01-23.00 34 34 ปกติ 23.00-25.00 13 13 เริ่มอ้วน 25.01 ขึ้นไป 52 52 อ้วน รวม 100 100
จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีภาวะอ้วน รองลงมาคือกลุ่มที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ถัดไปกลุ่มเริ่มอ้วน และกลุ่ม นน.น้อย ซึ่งมีเพียง ร้อยละ1 เท่านั้น<br />
จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มี นน.มาก มีภาวะอ้วน จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs มากกว่า คนที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ จึงควรมีการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการดำเนินชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การวัดรอบเอว จำนวน 100 คน
วัดรอบสะเอว จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ ชายน้อยกว่า 90 ซม. 27 27 ปกติ ชายมากกว่า 90 ซม. 5 5 รอบเอวเกิน หญิงน้อยกว่า 80 ซม. 36 36 ปกติ หญิงมากกว่า 90 ซม. 32 32 รอบเอวเกิน รวม 100 100
จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ ในผู้ชาย รอบเอวจะน้อยกว่า 90 เซนติเมตร ในขณะที่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ผู้หญิง จะไม่ค่อยแตกต่างกัน ระหว่าง กลุ่มรอบเอวปกติ และรอบเอวเกิน ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มเหล่านี้ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพื่อลด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วยต่อไป
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 100 คน
ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 58 58 ปกติ 100 – 125 mg% 36 36 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 6 6 สงสัยป่วยเบาหวาน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 9 คน รวม 100 100
จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ
น้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 9 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 100 คน
ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 53 53 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 38 38 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 6 6 สงสัยป่วยความดันฯ ป่วยด้วยโรค HT 23 คน รวม 100 100
จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ
ความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 23 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
นอกจากนี้ ในการจัดกิจกรรม ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ก็ยังมีการแนะนำเกี่ยวกับช่องทางการดูแลสุขภาพ โดยการใช้ แอปพลิแคชั่น ที่สะดวกทันสมัย สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว พร้อมกันนั้น ยังมี ข้อมูลความรู้ เป็นคลังความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถศึกษาได้ ตามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เพื่อการดูแลสุขภาพ เพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ ป้องกันโรคต่อไป
(คิว อาร์โคด ตามเอกสารที่แนบต่อไป)
ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ทั้ง 8 หมู่บ้าน แม้จะต้องเดินเพื่อเปลี่ยนฐานการศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบอินเตอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการโต้ตอบ ถามตอบ ร่วมมือในการเข้าไปศึกษาใน แอปพลิเคชั่น เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกันใน “คู่หูบัดดี้ NCDs” เป็นภาพที่ประทับใจ