โครงการ สุขภาพดีด้วยความรอบรู้ด้านอาหารและลดความเสี่ยง NCDs ในชุมชน
| ชื่อโครงการ | โครงการ สุขภาพดีด้วยความรอบรู้ด้านอาหารและลดความเสี่ยง NCDs ในชุมชน |
| รหัสโครงการ | 69-L2995-1-11 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด |
| วันที่อนุมัติ | 31 ตุลาคม 2568 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2568 - 30 กันยายน 2569 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2569 |
| งบประมาณ | 30,020.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวยามีหล๊ะ โตะเกะ |
| พี่เลี้ยงโครงการ | คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลบ้านกลาง |
| พื้นที่ดำเนินการ | ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.839,101.521place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงและการบาดเจ็บของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ปี พ.ศ. 2565 ในส่วนของการบริโภคเกลือ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ให้ความเค็มหรือเกลือโซเดียมมีอยู่ในเกลือหรือน้ำปลาเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปรุงรส เช่น ซอส ผงปรุงรส ผงชูรส รวมไปถึงอาหารกึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่-โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนมกรุบกรอบ ล้วนมีสารให้ความเค็ม (เกลือโซเดียม) เป็นส่วนประกอบ ล่าสุดพบคนไทยบริโภคเกลือโซเดียมเฉลี่ย 4,351.7 มิลลิกรัมต่อวันหรือกว่า 2 ช้อนชา เกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกคือ 2,000 มิลลิกรัมหรือ 1 ช้อนชาต่อวัน และกลุ่มอายุ 25-59 ปี เป็นกลุ่มอายุที่กินเค็มมากที่สุด โดยการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 2 ที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง นำไปสู่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคไตเรื้อรังโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโรคดังกล่าวป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคลดหวาน มัน เค็ม
จากข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข เมื่อแยกข้อมูลอัตราป่วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน มีแนวโน้มการป่วยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไตเสื่อม มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว การดูแลรักษาต้องใช้งบประมาณสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน นำไปสู่การล้มละลายจากสาการเจ็บป่วย
ต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมาจากการบริโภคโซเดียมสูง การกินเค็ม และการประรับทานอาหารที่รสหวานเกินมาตรฐาน ของประชาชนส่งผลต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานและเป็นสาเหตุการป่วยตายด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ไตเสื่อม จำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโซเดียมที่ไม่เหมาะสมอย่างเข้มข้นจะสามารถป้องกันและยืดระยะเวลาการเป็นโรคความดันโลหิตสูงออกไปได้ถึงร้อยละ 50รพ.สตบ้านบางมะรวดจึงได้จัดทำโครงการสุขภาพดีด้วยความรอบรู้ด้านอาหารและลดความเสี่ยง NCDs ในชุมชน
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | 1. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงในพื้นที่ตำบล.... 2. เพื่อลดผู้ป่วยรายใหม่โรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง 3. เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ดี
|
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 50 | 30,020.00 | 0 | 0.00 | 30,020.00 | |
| 11 พ.ย. 68 | 5. ให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3อ2ส1น. (อาหารดี อารมณ์ดี ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา นอนหลับพักผ่อน ) | 50 | 30,020.00 | - | - | ||
| รวมทั้งสิ้น | 50 | 30,020.00 | 0 | 0.00 | 30,020.00 | ||
7.1 เกิดชุมชน ลดโรค ลดภัยสุขภาพ อย่างยั่งยืน 7.2 กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรมสามารถอ่านค่าโซเดียม และคำนวณโซเดียมที่ควรบริโภคต่อวันของตนเองได้ 7.3 อสม. สามารถอ่านค่าและแปลผลภาวะสุขภาพระดับความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2568 10:54 น.