กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

หลักการ 3 อ. 2 ส. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย และ งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา ซึ่งเป็นหลักการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคและสร้างสุขภาพกายใจให้แข็งแรง โดยเน้นที่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จัดการอารมณ์ให้ดีและละเว้นการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้ 3 อ.ได้แก่ อาหาร: รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผักผลไม้ให้มากขึ้น ออกกำลังกาย: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน และอารมณ์: จัดการความเครียดทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง หรือทำงานอดิเรก ส่วน 2 ส. ได้แก่ งดสูบบุหรี่: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง และงดดื่มสุรา: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายจึงควรจะออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ ถ้าสามารถทำได้การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยทำให้หัวใจของแข็งแรงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆน้อยลง เพิ่มความแข็งแรงและยังสามารถช่วยลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี เช่นการทำให้หัวใจแข็งแรงจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลง ทำให้หัวใจและระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและหัวใจล้มเหลว การทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆน้อยลงลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยปรับระดับไขมันในร่างกาย ได้แก่คอเลสเตอรอล ,HDL, LDL และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยในเรื่องการลดสูบบุหรี่ทำให้สามารถควบน้ำหนักและไขมันในร่างกาย การช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและรู้สึกดีขึ้น ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อต่างๆช่วยทำให้ร่างกายสามารถทำงานในแต่ละวันได้โดยที่ไม่เหนื่อยง่าย เพิ่มความสมดุลและความยืดหยุ่นของร่างกายช่วยลดอาการซึมเศร้า ความวิตกกังวลในเรื่องต่างๆจะเห็นได้ว่า การออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยทำให้สุขภาพดีมากขึ้น และการออกกำลังกายที่ดี ควรจะรวม 3 ขั้นตอนดังนี้ 1.การวอร์มอัพเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพก่อนที่จะออกกำลังกาย อย่างเช่นเรื่องการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจต่างๆและจะทำให้สามารถ  ออกกำลังกายได้นานขึ้นสามารถทำได้ง่ายๆเช่น การยืดเส้นยืดสาย การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยหรือการเดินหรือวิ่งช้าๆ เพื่อปรับสภาพร่างกาย ควรจะวอร์มอัพอย่างน้อย 5 นาทีก่อนจะเริ่มออกกำลังกาย 2.การปรับสภาพร่างกายขั้นตอนนี้จะทำต่อเหมือนวอร์มอัพ ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากวางแผนการ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายรับสภาพกับการออกกำลังกาย ซึ่งจะมี 4 อย่าง ได้แก่ ความถี่ : ความถี่ในการออกกำลังกาย,ความเข้มข้น : ขึ้นอยู่กับว่าต้องการจะออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน ถ้าออกกำลังความมากก็ควรจะทำตอน  ที่ร่างกายรับไหว,ระยะเวลา : ระยะเวลาที่จะออกกำลังกาย เช่น 30 หรือ 40 นาที หรือต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน  ในแต่ละครั้งและการพักระหว่างการออกกำลังกายควรจะมีการพักเป็นระยะๆเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพอัตราการ  เต้นของหัวใจและความดันโลหิตกลับไปอยู่ในระดับปกติ การพักไม่ได้หมายถึงการนั่งพักหรือนอนพักเพราะการนั่งหรือการนอนทันทีหลังจากการออกกำลังกาย อาจจะทำให้รู้สึกวิงเวียน หน้ามืด หรือใจสั่นได้ การพักที่ดีก็คือการค่อยๆลดปริมาณในการออกกำลังกายที่กำลังทำอยู่ลงหรือเปลี่ยนกิจกรรมในการออกกำลังให้น้อยลงคล้ายๆกับการวอร์มอัพร่างกายซึ่งก็ควรจะพักประมาณ 5 นาทีแล้วจึงค่อยออกกำลังกายต่อและประกอบกับผลการคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ปี 2568 จำนวน 128 คน พบว่า โรคเบาหวาน แบ่งเป็นกลุ่มปกติ ร้อยละ 80.47 ,กลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 16.41 และกลุ่มป่วย ร้อยละ 3.12 และโรคความดันโลหิตสูง แบ่งเป็นกลุ่มปกติ ร้อยละ 30.47 ,กลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 61.72 และกลุ่มป่วย ร้อยละ 7.81 คณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านหัวหิน เล็งเห็นความสำคัญของปัญหา จึงได้จัดทำโครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ขยับกาย สบายชีวี วิถีชาวหัวหิน ปี 2569 ขึ้น เพื่อจัดตั้งชมรมออกกำลังกาย ม.6 บ้านหัวหิน ส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายและเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้เรื่องการออกกำลังกายที่ถูกวิธี