กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

จากสถานการณ์อุทกภัย ภัยพิบัติในพื้นที่ปัจจุบัน ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อสูง ซึ่งพื้นที่อำเภอ สิเกาเป็นพื้นที่เกษตรกรรมด้านการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน อีกทั้งยังมีบริเวณที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทั้งในสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันและบริเวณที่อยู่อาศัย ประกอบกับภาคใต้มีฤดูฝนติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งโรคฉี่หนูหรือโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) มักจะมาช่วงฤดูฝน ประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเดินย่ำโคลนหรือพื้นที่ที่มีน้ำขังด้วยเท้าเปล่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันเป็นช่วงๆ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคนี้ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า เชื้อเลปโตสไปร่า (Leptospirosis) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือไชเข้าผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน พบมากในพื้นที่ที่มีการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน เนื่องจากต้องเดินย่ำน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ อาการของโรคคือมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเจ็บกล้ามเนื้อที่โคนขาและน่องอย่างมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปนหรือตัวเหลืองตาเหลือง เนื่องจากเยื้อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตับวาย ไตวาย และเสียชีวิตได้
    สถานการณ์ผู้ป่วยโรคLeptospirosis ของจังหวัดตรังได้รับรายงานผู้ป่วย จำนวนทั้งสิ้น 5,885 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 924.80 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย อัตราตายต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 0.31 อัตราผู้ป่วยตาย เท่ากับ ร้อยละ 0.03 และสถานการณ์โรคฉี่หนูของอำเภอสิเกา มีผู้ป่วยจำนวน 443 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1,157.72 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
    โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไร่ออก มีความห่วงใยสุขภาพประชาชนและตระหนักถึงโรคภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงได้จัดทำโครงการป้องกันเละควบคุมโรคฉี่หนูขึ้น ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อค้นหาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเชิงรุก ผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายร่วมกับสัมผัสลุยน้ำ แช่น้ำได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเสปโตสไปโรชีสได้รับการเยี่ยมบ้านและมีความรู้ในการป้องกันตนเองจากโรคฉี่หนู