โครงการลดเค็ม ลดโรค ชะลอไตเสื่อม ปีงบประมาณ 2569
| ชื่อโครงการ | โครงการลดเค็ม ลดโรค ชะลอไตเสื่อม ปีงบประมาณ 2569 |
| รหัสโครงการ | L8279-69-02-01 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบาเจาะ |
| วันที่อนุมัติ | 31 ตุลาคม 2568 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2569 |
| งบประมาณ | 65,700.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายมูฮำหมัดนาเซร์ ดอเลาะ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.514,101.636place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงและการบาดเจ็บของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ปี พ.ศ. 2560 ในส่วนของการบริโภคเกลือ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ให้ความเค็มหรือเกลือโซเดียมมีอยู่ในเกลือหรือน้ำปลาเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปรุงรส เช่น ซอส ผงปรุงรส ผงชูรส รวมไปถึงอาหารกึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่-โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนมกรุบกรอบ ล้วนมีสารให้ความเค็ม (เกลือโซเดียม) เป็นส่วนประกอบ ล่าสุดพบคนไทยบริโภคเกลือโซเดียมเฉลี่ย 4,351.7 มิลลิกรัมต่อวันหรือกว่า 2 ช้อนชา เกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกคือ 2,000 มิลลิกรัมหรือ 1 ช้อนชาต่อวัน และกลุ่มอายุ 25-59 ปี เป็นกลุ่มอายุที่กินเค็มมากที่สุด โดยการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 2 ที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง นำไปสู่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคไตเรื้อรังโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโรคดังกล่าวป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคลดหวาน มัน เค็ม
จากข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข เมื่อแยกข้อมูลอัตราป่วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน มีแนวโน้มการป่วยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไตเสื่อม มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว การดูแลรักษาต้องใช้งบประมาณสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน นำไปสู่การล้มละลายจากสาการเจ็บป่วย ต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูงมาจากการบริโภคโซเดียมสูงเกินมาตรฐาน และการกินเค็มของประชาชนส่งผลต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและเป็นสาเหตุการป่วยตายด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ไตเสื่อม จำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโซเดียมที่ไม่เหมาะสมอย่างเข้มข้นจะสามารถป้องกันและยืดระยะเวลาการเป็นโรคความดันโลหิตสูงออกไปได้ถึงร้อยละ 50 กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบาเจาะ จึงได้จัดทำโครงการลดเค็ม ลดโรค ชะลอไตเสื่อม ขึ้น
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อแก้ไขปัญหาโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ในพื้นที่
|
||
| 2 | เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงในพื้นที่
|
||
| 3 | เพื่อลดผู้ป่วยรายใหม่โรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง
|
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
- เพื่อแก้ไขปัญหาโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ในพื้นที่
- เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงในพื้นที่
- เพื่อลดผู้ป่วยรายใหม่โรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2568 09:49 น.