โครงการนม แม่ ไข่ และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ชื่อโครงการ | โครงการนม แม่ ไข่ และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ |
รหัสโครงการ | 6050118207 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอสม.ต.นาท่ามใต้ |
วันที่อนุมัติ | 10 มกราคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายจวนประภา |
พี่เลี้ยงโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาท่ามใต้ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.635,99.551place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เด็ก คือทรัพยากรอันทรงคุณค่าและเป็นอนาคตของชาติที่ควรได้รับการเลี้ยงดูให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการสมวัย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ปัจจุบัน พัฒนาการของเด็กไทย โดยเฉพาะความสามารถทางสติปัญญา (IQ) มีแนวโน้มลดลง ปัจจัยที่ส่งผลต่อสติปัญญาของเด็ก ได้แก่ ภาวะทุพโภชนาการ เช่น การขาดธาตุไอโอดีน โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กของหญิงตั้งครรภ์ การขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิด ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า ๒,๕๐๐ กรัม โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนาสุขภาพของเด็กปฐมวัยยังต้องเร่งรัดกุลยุทธ์ กลวิธีอีกหลายประการ รวมทั้ง การกระตุ้นพัฒนาการของเด็กแรกเกิดถึง ๓ ปี ซึ่งเซลล์สมองเจริญเติบโตร้อยละ ๘๐ เป็น "หน้าต่างแห่งโอกาส" ของการกระตุ้นและฝึกทักษะให้ได้รับการกระตุ้นทางการสัมผัสทั้ง ๕ ได้แก่ ตา จมูก ลิ้น กาย ให้ได้ยิน ได้เห็น ได้กลิ่น ได้รส และได้สัมผัส ทั้งแรกเกิดด้วยความรักจากแม่จะช่วยให้ประสานสายใยประสาทของเซลล์สมองมากขึ้น ทำให้เด็กฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว มีชีวิตชีวา รู้เหตุผลและมีการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ อาหารที่สำคัญที่สุดของเด็ก คือ "นมแม่" เด็กที่ดื่มนมแม่จะมีค่าเฉลี่ยระดับเชาว์ปัญญา (IQ) เหนือกว่าเด็กที่ไม่ได้กินมแม่ ๓-๑๐ จุด เมื่อแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การโอบกอด สัมผัส อุ้มลูกไว้ในอ้อมอก เสียงพูดคุย หยอกล้อ เด็กจะได้รับประสาทสัมผัสทุกด้าน ส่งผลให้พัฒนาการเด็กสมวัยและฉลาดมากขึ้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ๖ เดือน และให้เลี้ยงควบคู่กับอาหารตามวัยจนลูกครบ ๒ ปีหรือมากกว่านั้น ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีจำนวนลดลงอย่างมาก สาเหตุสำคัญของปัญหาส่วนใหญ่ เนื่องจากความไม่ต่อเนื่องในการสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่บุคลากรทุกระดับที่เกี่ยวข้องจะต้องมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ชมรมอสม.ตำบลนาท่ามใต้ได้เล็งเห็นความสำคัญจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ขึ้น เพื่อให้ตำบลนาท่ามใต้เป็นตำบลที่ใช้กิจกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สร้างสายใยรักและความผูกพันของครอบครัว อบรม เพาะบ่มและหล่อหลอมเด็กให้เติบโตเป็นเด็กแข็งแรง ฉลาด อารมณ์ดี จิตใจดี และมีความสุข
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑. เพื่อให้ความรู้แก่สตรีและหญิงมีครรภ์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
|
||
2 | ๒. เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการดูแลก่อนคลอด และหลังคลอดอย่างมีคุณภาพ อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ๖ เดือน ร้อยละ ๔๐ |
||
3 | ๓. เพื่อสร้างเด็กปฐมวัยให้เจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย เป็นคนเก่ง คนดีและมีความสุข
|
๑. แต่งตั้งคณะทำงานโครงการตำบลนมแม่เพื่อสร้างสายใยรักแห่งครอบครัว ๒. ประชุมคณะทำงาน ๓. ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๔. ตั้งชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว ๕. จัดอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกสายใยรักแห่งครอบครัวและหญิงตั้งครรภ์ ๖. เยี่ยมบ้านหญิงตั้งครรภ์และมารดาหลังคลอด เพื่อติดตามการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๗. เตรียมอาหารเสริม นม และชุดส่งเสริมพัฒนาการ ๘. เตรียมเอกสาร แผ่นพับให้ความรู้เรื่องนมแม่ ๔. สรุปผลการดำเนินโครงการ
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ๖ เดือน ร้อยละ ๔๐
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2560 10:44 น.