โครงการผู้นำ “ลดพุง ลดโรค”
ชื่อโครงการ | โครงการผู้นำ “ลดพุง ลดโรค” |
รหัสโครงการ | 61-L1499-2-2L |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลบางรัก |
วันที่อนุมัติ | 13 มีนาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2561 - 31 สิงหาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2561 |
งบประมาณ | 101,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสิริรสกิ้มเฉี้ยง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.558,99.577place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 55 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันประเทศไทย มีคนอ้วนถึง 17 ล้านคน และทุกๆ ปี มีคนอ้วน เพิ่มขึ้น 4 ล้านคน และนับวันสถานการณ์ความอ้วนของคนไทยมีแนวโน้มขยายตัวไม่หยุด ในรอบ 18 ปี ที่มีการเก็บสถิติพบว่า คนอ้วนเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า และความอ้วนยังได้ขยายไปในกลุ่มเด็กอายุ 6-12 ปี แม้คนส่วนใหญ่จะบอกว่าเด็กอ้วนจ้ำม่ำน่ารักแต่ความจริงแล้วการปล่อยให้เกิดภาวะอ้วนในเด็กน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะความเสี่ยงเกิดโรคไม่ได้แตกต่างจากผู้ใหญ่
เรียกได้ว่าประเทศไทยพบแนวโน้มการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ ภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วนในประชากรทุกกลุ่มวัยเลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้ กร๊าฟโรคอ้วนทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วที่สำคัญก็คือ พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป กินไม่ถูก นอนไม่ถูก โดยเฉพาะพฤติกรรรมการกินถือเป็นสาเหตุหลัก ไม่ว่าจะเป็นกินมากเกินพอดี กินจุบจิบ หวานจัด เค็มจัด เมื่อบวกกับการใช้ชีวิตอย่างไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็นทำงานหนัก เครียดมาก นอนน้อยไม่ออกกำลังกาย แน่นิ่งไม่เคลื่อนไหวระหว่างวัน และยังมีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่ช่วยกันกระตุ้นให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
“หวานเกิน” อัตราการบริโภคน้ำตาลจากผลิตภัณฑ์อาหารขนมและเครื่องดื่มผสมน้ำตาล ถึงวันละ 88 กรัม หรือ 22 ช้อนชาซึ่งมากกว่าปริมาณที่แนะนำไว้ว่าไม่ควรเกิน 24 กรัมต่อวัน หรือไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาเท่านั้น
“เค็มจัด” นอกจากคนไทยจะชอบปรุงรส ก็ยังได้รับความเค็ม หรือโซเดียม ที่สอดแทรกในอาหารแบบไม่รู้ตัวไม่ว่าจะเป็น ผงชูรส ขนมกรุบกรอบ วัตถุกันเสีย กะปิ น้ำปลา ก็ล้วนทำให้อัตราการบริโภคเค็มเกินปริมาณที่แนะนำถึง 2 เท่าตัว
“ผักน้อยผลไม้ไม่พอ” ทั้งที่มีความสำคัญมาก แต่คนไทยที่ขึ้นชื่อว่าเมืองเกษตรกรรมก็ยังบริโภคทั้งสองอย่างนี้ไม่เพียงพอ ตั้งแต่เด็กจนโตในมื้ออาหารจะหนักไปที่คาร์โบไฮเดรท โปรตีน มากกว่าใยอาหาร จนทำให้การย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหารไม่สมดุลกัน
“แน่นิ่ง” ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ถูกผูกไว้หน้าจอ แม้อัตราการออกกำลังกายจะเพิ่มมากขึ้น โดยมีคนหันมาให้ความสำคัญจำนวนมากขึ้น แต่อัตราการออกกำลังกาย หรือมีกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่องกลับสวนทางกัน ยิ่งคนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ต เข้าถึงสมาร์ทโฟนมากเท่าไหร่การขยับร่างกายก็น้อยลงเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้คือกระบวนการเร่งให้เกิดโรคขึ้นทั้งสิ้นจนทำให้ในแต่ละปีต้องใช้งบประมาณด้านสาธารณะไปกว่าปีละสองแสนล้านบาท
เพราะฉะนั้น “ความอ้วน” ไม่ใช่แค่ปัญหาของความสวยงามเพราะภายใต้ความอ้วนนั้นซ่อนโรคที่ทำให้เกิดความเสี่ยงเจ็บป่วยตามมาเป็นขบวน ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำตาลในเลือดสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือดไขข้อเสื่อม ที่ล้วนป่วยเรื้อรัง เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องอ้วน หรือ ไม่อ้วน ทำอย่างไรให้รู้ชัด คนสุขภาพดีต้องผอมๆ บางๆ หรือ ต้องกินอาหารเสริมให้ผอมๆ เข้าไว้ ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับความอ้วน ความผอม ศูนย์พัฒนาครอบครัวตำบลบางรักได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้คิดค้นแนวทางในการแก้ปัญหา โดยคัดเลือกเครือข่ายเฝ้าระวังสถาบันครอบครัวในชุมชน จำนวน 50 คนเข้ารับความรู้ ในโครงการผู้นำ “ลดโรค ลดพุง” เกิดผู้นำ “ลดโรค ลดพุง”
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อสร้างความตระหนักรู้และถ่ายทอดความรู้ “ลดโรค ลดพุง” วิธีการลดพุง ควบคู่กับการลดโรค วิธีการออกกำลังกายเพื่อลดพุง และลดโรค และการจัดการอารมณ์ ไม่ให้เครียด การมองโลกเชิงบวก อารมณ์ดี และการมุ่งมั่น ตั้งใจ ให้กับผู้นำในชุมชน
|
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ผู้นำ “ลดพุง ลดโรค” สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม
|
0.00 |
1 เขียนโครงการ จัดทำเครื่องมือเพื่อเสนอขอรับงบประมาณ
ดำเนินงานภายใต้สมมิตฐานที่ว่า ทางรอดโรคอ้วน ลงพุง ด้วย 3 อ. อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย อ.อารมณ์
- ครั้งที่ 1 จำนวน 3 วัน เรียนรู้และสร้างความเข้าใจ “การลดพุง ลดโรค” อ.อาหาร และ อ.ออกกำลังกาย
- ครั้งที่ 2จำนวน 2 วัน เรียนรู้และสร้างความเข้าใจ “การลดพุง ลดโรค” อ.อารมณ์
- ครั้งที่ 3จำนวน 1 วัน แลกเปลี่ยนความรู้เพื่อขยายผลการดำเนินงานและสรุปผลการดำเนินกิจกรรม
2 กำหนดวัน เวลา สถานที่ และประสานงานเพื่อจัดกิจกรรม
3 ดำเนินกิจกรรมตามหลักสูตร
4 สรุปและรายงานผลการดำเนินงาน
- เกิดความตระหนักรู้และสามารถถ่ายทอดความรู้ “ลดโรค ลดพุง” วิธีการลดพุง ควบคู่กับการลดโรค วิธีการออกกำลังกายเพื่อลดพุง และลดโรค และการจัดการอารมณ์ ไม่ให้เครียด การมองโลกเชิงบวก อารมณ์ดี และการมุ่งมั่น ตั้งใจ ให้กับผู้นำในชุมชน
- ผู้นำ “ลดพุงลดโรค” สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 16:33 น.