โครงการเด็กปฐมวัย สูงดีสมส่วน ฟันไม่ผุ พัฒนาการสมวัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการเด็กปฐมวัย สูงดีสมส่วน ฟันไม่ผุ พัฒนาการสมวัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ปี 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L5238-01-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ชุมพล |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 11 ตุลาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 1 ตุลาคม 2561 |
งบประมาณ | 7,675.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวฮูดาหลงตรี |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางเพียงขวัญกาญจนเพ็ญ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.603,100.385place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 110 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 117 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกายและพัฒนาการการเรียนรู้ หากเด็กปฐมวัยมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ เจ็บป่วยเรื้อรัง ก็จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเรียนรู้ การเจริญเติบโตตามวัยเพราะการเจ็บป่วยจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็ก ทำให้มีพัฒนาการต่าง ๆ ล่าช้า เช่น ร่างกายเจริญเติบโตช้า อันเนื่องมาจากโรคบางชนิด และปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น การบดเคี้ยวอาหาร โรคฟันผุ ล้วนส่งผลต่อกระบวนการเจริญเติบโตร่างกายของเด็กปฐมวัย
จากการสำรวจเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวัดกระชายทะเล และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมัสยิด ยามาอาตินนูร ปีการศึกษา 2560 เด็กปฐมวัยมีส่วนสูงระดับดีและรูปร่างสมส่วน ร้อยละ 66.10 และ 69.23ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเด็กเล็กคุณภาพ กระทรวงสาธารณสุข เด็กปฐมวัยมีส่วนสูงระดับดีและรูปร่างสมส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และจากการสำรวจสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย พบว่า มีอัตราโรคฟันผุ ร้อยละ 67.21 และ 60.59 โดยเด็กปฐมวัยต้องมีฟันน้ำนมผุไม่เกินร้อยละ 55
ดังนั้นเพื่อให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการเจริญเติบโตสมวัยและสุขภาพช่องปากดี จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการการเจริญเติบโตและลดการเกิดโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย รวมถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนในการร่วมมือแก้ไขปัญหาด้านการเจริญเติบโตของเด็กปฐมวัย จะทำให้การพัฒนาความฉลาดนั้นสมบูรณ์และประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อส่งเสริมเด็กปฐมวัยมีส่วนสูงระดับดีและรูปร่างสมส่วนผ่านเกณฑ์มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ 2. เพื่อสร้างเสริมอนามัยช่องปากที่ดีและบริการทาฟลูออไรด์วานิชเด็กกลุ่มเสี่ยง 3. เพื่อให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสมวัยตามช่วงอายุ 30เดือน และ 42 เดือน 4. เพื่อให้ผู้ปกครอง ครูผู้ดูแลเด็ก มีความรู้ ความเข้าใจ ในการเลี้ยงดูเด็กให้มีพัฒนาการสมวัยและมีสุขภาพช่องปากที่ดี
|
0.00 |
ระยะก่อนดำเนินการ
1. ประชุมชี้แจงรายละเอียดการจัดทำโครงการกับครูผู้ดูแลเด็ก
2. จัดเตรียมอุปกรณ์และเอกสารใช้ในการจัดทำโครงการ
3. จัดทำหนังสือแจ้งชี้แจงรายละเอียดการอบรมแก่ผู้ปกครอง
4. จัดทำสื่อโฟมบอร์ดความรู้
ระยะดำเนินการ
1.กิจกรรมอบรมให้ความรู้ ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง
1.1 ลงทะเบียนเข้าอบรม
1.2 ทดสอบความรู้ก่อน-หลังอบรม
1.3 ให้ความรู้ด้านทันตสุขภาพ พัฒนาการตามวัย
1.4 ฝึกปฏิบัติการตรวจสุขภาพ และการตรวจสุขภาพช่องปาก
2. กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการสมวัยและอนามัยช่องปาก
2.1 ตรวจพัฒนาการเด็กอายุ 30 เดือน และอายุ 42 เดือน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
2.2 ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุก 2 เดือน โดยครูผู้ดูแลเด็ก
2.3 ตรวจสุขภาพช่องปากและทาฟลูออไรด์วานิชเด็กกลุ่มเสี่ยง โดยทันตบุคลากร
2.4 แจ้งผลการตรวจพัฒนาการแก่ผู้ปกครองและครูผู้ดูแลเด็ก ติดตามและส่งต่อเด็กที่มีพัฒนาการไม่สมวัย
2.5 แจ้งผลการตรวจสุขภาพช่องปากและแจกใบนัดการรักษาทันตกรรมแก่เด็กที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก
2.6 ปฏิบัติการแปรงฟันหลังรับประทานอาหารกลางวัน
2.7 ประกวดหนูน้อยฟันสวย
ระยะหลังดำเนินการ
1. ติดตามและประเมินผล
2. สรุปผลการดำเนินงาน
1.เด็กปฐมวัยมีสุขภาพอนามัยช่องปากที่ดี อัตราการเกิดโรคฟันผุลดลง 2.เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสมวัยตามช่วงอายุ 3.ผู้ปกครอง มีความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติที่ดีในการเอาใจใส่ดูแลเด็กปฐมวัย 4.ครูผู้ดูแลเด็กสามารถนำความรู้ไปพัฒนากระบวนการเรียนการสอนในชั้นเรียน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 13:45 น.