กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัจจุบันเทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลอย่างไร้ขีดจำกัด จากผลการสำรวจของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจ ปี 2559        เรื่อง “สื่อสังคมออนไลน์ กับอนาคตเด็กและเยาวชนไทย”จากเด็กและเยาวชนที่พักอาศัยทั่วประเทศ พบว่าสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม อันดับแรกคือ สื่อออนไลน์ที่มีความรุนแรง ร้อยละ 81.04 อันดับสองคือ สื่อออนไลน์เกี่ยวกับการพนัน ร้อยละ 77.53  อันดับสามคือ สื่อออนไลน์เกี่ยวกับการฆาตกรรม ร้อยละ 68.04 อันดับสี่คือ สื่อออนไลน์เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร ร้อยละ 65.95  สาเหตุของการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมทางสื่อออนไลน์ พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่า เพราะอยากดัง มากที่สุด ร้อยละ 76.11 รองลงมา อยากโชว์ ร้อยละ 64.73 เรียกร้องความสนใจ ร้อยละ 56.01 การเลียนแบบ ร้อยละ 51.36 ระบายความรู้สึก (ด่า) ร้อยละ 39.61  อยากได้เงิน ร้อยละ 33.44 และขาดความอบอุ่น ร้อยละ 0.11 ตามลำดับ ผลเสียของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม      พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่าสายตาเสีย ปวดเมื่อยร่างกาย มากที่สุด ร้อยละ 69.20 รองลงมา เสียเวลา เสียเงิน เสียการเรียน    ร้อยละ 57.61 สมาธิสั้น หมกมุ่น ซึมเศร้า เก็บตัว ขี้อิจฉา ร้อยละ 55.49 เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้าถึงตัวได้ง่าย ร้อยละ 46.42    การมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อน และบุคคลรอบข้างลดลง ร้อยละ 43.08 เกิดการเลียนแบบและซึมซับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  ร้อยละ 42.64 ทำให้สังคมเสื่อมโทรมลงไป คิดเป็นร้อยละ 39.45 ตามลำดับ
      ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดจากสื่อสังคมออนไลน์ จึงยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ยังขาดภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และทักษะในการดำเนินชีวิตภายใต้สภาพการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมในยุคปัจจุบัน มาตรการที่จะช่วยพัฒนาความตระหนักรู้ สร้างวุฒิภาวะให้กับเยาวชนได้อย่างแท้จริงและมีความยั่งยืนประการหนึ่งคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน โดยการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการแยกแยะรับรู้ถึงผลดี ผลเสีย ของสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งการให้ความรู้    ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านจิตใจจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ยังคงเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปลุกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและความรุนแรงของปัญหา ตลอดจนผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น       เทศบาลเมืองม่วงงาม มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2552 มาตรา 50 (7) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ประกอบกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอน    การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2549 มาตรา 16 (10)    สังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชราและผู้ด้อยโอกาส เทศบาลเมืองม่วงงามจึงจัดทำโครงการ การสัมมนา  เชิงปฏิบัติการ หัวข้อ เยาวชนม่วงงามปลอดภัย รู้จักใช้ โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อให้เด็กวัยเรียนและเยาวชนเขตพื้นที่เทศบาลเมืองม่วงงาม มีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจสมวัย มีความฉลาดทางสติปัญญาและอารมณ์ไม่ต่ำกว่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน มีสุขภาวะด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม มีทักษะชีวิตและพฤติกรรมที่เหมาะสมตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจัดบริการสาธารสุขของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2557 และ พระราชบัญญัติ ส่งเสริมการพัฒนาและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 25550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560