ใส่ใจสุขภาพ ห่างไกลโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | ใส่ใจสุขภาพ ห่างไกลโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 61-L8278-1-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลบันนังสตา |
วันที่อนุมัติ | 2 สิงหาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 6 สิงหาคม 2561 - 25 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 53,840.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอามีเนาะ ประดู่ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.25,101.233place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 400 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆทุกปี สำหรับประเทศไทย จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขพบว่าอัตราป่วยด้วย โรคความดันโลหิตสูง ต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คนในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา(พศ.๒๕๕๖-๒๕๖๐) เพิ่มขึ้นจาก ๑๒,๓๔๒.๑๔ (จำนวน ๓,๙๓๖,๑๗๑ คน) เป็น ๑๔,๙๒๖.๔๗ ( จำนวน ๕,๕๙๗,๖๗๑ คน ) และพบอัตรา การป่วยรายใหม่ของโรคความดันโลหิตสูงต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน ในรอบ ๓ ปีที่ผ่านมา (พศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐) เพิ่มขึ้นจาก ๙๑๖.๘๙ (จำนวน ๕๔๐,๐๑๓ คน) เป็น ๑,๓๕๓.๐๑ (จำนวน ๘๑๓,๔๘๕ คน) และสถานการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลก(WHO) รายงานว่าในปี ๒๕๕๒ ผู้ป่วยเบาหวาน มีจำนวน ๑๐๘ ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น ๔๒๒ ล้านคนในปี ๒๕๕๗ มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน๑.๕ ล้านคน สำหรับประเทศไทยจากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขพบว่าอัตราตายด้วยโรคเบาหวานต่อประชากรแสนคน ในภาพรวมของประเทศในปี2556-2558 เท่ากับ ๑๔.๙๓, ๑๗.๕๓ และ๑๗.๘๓ ตามลำดับ เห็นได้ว่าอัตราการตายด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นทุกปี
สำหรับข้อมูลสถานการณ์โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดยะลาปี ๒๕๕๖-๒๕๕๙ พบว่า อัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจาก ๒,๒๕๒ เป็น ๓,๐๙๔.๗ ต่อแสนประชากร ส่วนอัตราป่วยด้วย โรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นจาก ๖,๒๕๖.๑ เป็น ๘,๓๔.๔ ต่อแสนประชากร และข้อมูลอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ของอำเภอบันนังสตาปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ พบว่าอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานรายใหม่เพิ่มขึ้นจาก ๑๓๖.๔๓ เป็น ๑๗๕.๗๓ ต่อแสนประชากรและอัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่เพิ่มขึ้นจาก ๕๒๕.๔๙ เป็น ๕๔๗.๒๕ ต่อแสนประชากร (คลังข้อมูล HDC:๒๕๖๑) และจากข้อมูลการคัดกรองโรคเบาหวานและ ความดันโลหิตสูงในประชาชนอายุ35ปีขึ้นไปในอำเภอบันนังสตาปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ พบกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ๑๒.๙๙ (จำนวน๑,๘๕๕ คน) เป็นร้อยละ ๒๐.๒๘(จำนวน๓,๐๑๕ คน) และกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ๓.๖๓(จำนวน ๕๙๑ คน)เป็นร้อยละ๑๐.๙๗(จำนวน ๑,๘๔๔ คน) ซึ่งจะเห็นว่า มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริงพบว่ามีความสอดคล้องกับพฤติกรรมสุขภาพในเรื่องการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลบันนังสตา ปี ๒๕๖๑ มีพฤติกรรมกินเค็มทุกวันร้อยละ ๒๘.๕๗ กินหวานทุกวันร้อยละ ๒๓.๑๙ พฤติกรรมการกินผักไม่ครบ ๗ วันร้อยละ ๒๒.๘๕ พฤติกรรมการไม่ออกกำลังกายร้อยละ ๒๘.๕๗ จากข้อมูลที่พบจะเห็นได้ว่าการมีพฤติกรรม ไม่เหมาะสม จะส่งผลให้มีภาวะการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงขึ้นเรื่อยๆ
หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา จึงได้หาแนวทางแก้ปัญหาที่พบโดยการจัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงโดยจัดกิจกรรมต่างๆให้มีผลต่อการพัฒนาพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยงการพัฒนาทักษะเพื่อให้สามารถปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและส่งเสริมให้มีปัจจัยต่างๆที่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วย กิจกรรมดังกล่าวน่าจะส่งผลให้กลุ่มเสี่ยงสามารถป้องกันการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2561 12:47 น.