โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้มีภาวะเสี่ยง ลดพุง ลดโรค
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้มีภาวะเสี่ยง ลดพุง ลดโรค |
รหัสโครงการ | 61-L3332-1-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน |
วันที่อนุมัติ | 19 กรกฎาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 20 กันยายน 2561 - 25 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 24,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางลาวัณย์ แดงปรก |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายพิลือ เขียวแก้ว |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาปะขอ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.435,100.197place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคหัวใจและหลอดเลือด เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดส่งผลให้เลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญในร่างกายอุดตัน หรืออาจถึงขั้นเส้นเลือดแตก โดยเฉพาะหากเกิดกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองและหัวใจ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตพลเมืองโลกมากที่สุด จากสถิติพบว่า ในทุกๆ ๒ นาทีจะมีคนเสียชีวิตด้วยโรคนี้ ๑ คน องค์การอนามัยโลก ได้ทำนายไว้ว่าใน ปี ๒๕๗๓ ประชากรโลกจำนวน ๒๓ ล้านคน จะเสียชีวิตจากโรคหลอดสมอง และหัวใจ ร้อยละ๘๕ อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ประเทศไทยคาดว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละปี ๑๕๐,๐๐๐ ราย ในปัจจุบันนี้ แม้การแพทย์จะสามารถเอาชนะโรคร้ายต่างๆมากมาย ทำให้ประชากรโลกรอดพ้นจากการเจ็บป่วยเหล่านั้นและมีอายุที่ยืนยาวขึ้น แต่จำนวนคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเรียกรวมกันว่า เมตะบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) กลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้นเหตุของการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงในปัจจุบัน คือการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนอ้วน เพราะอุปนิสัยการกินอยู่ที่เปลี่ยนไป มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงในการใช้ชีวิตประจำวัน กินอาหารที่มีไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันที่สะสมอยู่ที่พุงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำตาลและระดับไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
จากผลการตรวจคัดกรองสุขภาพของ ประชาชนอายุ ๓๕ ปี ขึ้นไป ในชุมชนเขตพื้นทีรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียนจำนวน ๗๔๒ รายพบว่าเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ๑๖๗ ราย ร้อยละ ๒๒.๕ เสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน ๙๓ ราย ร้อยละ ๑๒.๕ เสี่ยงโรคอ้วน ๒๙๓ รายร้อยละ ๓๙.๕ และจากสถิติผู้ป่วย ส่วนใหญ่พบป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน ๑๕๙ รายควบคุมความดันโลหิตได้ดี ๖๑ ราย ร้อยละ ๓๘.๓ และโรคเบาหวานจำนวน ๘๙ ราย ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ๒๕ ราย ร้อยละ ๒๘.๑ พบว่ากลุ่มป่วยทั้งสองโรคนี้ ผลการคัดกรอง(CVD Risk) เสี่ยงปานกลาง (๑๐ ≥ ๒๐ %) จำนวน ๕๐ รายเสี่ยงสูง (๒๐ < ๓๐ %) จำนวน ๓๕ ราย เสี่ยงสูงมาก (๓๐ < ๔๐ %) จำนวน ๑๗ ราย และเสี่ยงสูงอันตราย (≥ ๔๐ %) จำนวน ๕๑ ราย ซึ่งเป็นโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง จึงต้องทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคมทั้งหมดด้วยการรณรงค์เรื่องวิถีชีวิต ทำให้เกิดความตระหนักในอันตรายของอาหารที่ทำให้เกิดความอ้วน อันตรายของชีวิตที่กินๆนอนๆไม่ขยับเขยื้อน ไม่ออกกำลังกาย การปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลให้โรคแทรกซ้อนเกิดเร็วขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้มีภาวะเสี่ยง ลดพุง ลดโรค โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะเคียน
ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุงปี ๒๕๖๑ เพื่อให้ประชาชนในชุมชนเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งกลุ่มป่วย และกลุ่มเสี่ยง รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องถึงพฤติกรรมของการเกิดโรค และสามารถรับผิดชอบในการจัดการตนเองเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาแทรกซ้อนต่างๆ ตลอดจนดำรงรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับความรู้ มีความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรค และเกิดความตระหนักถึงการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานสามารถลดหรือควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าก่อนเข้าร่วมโครงการ
|
0.00 | |
3 | เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินค่ามาตรฐาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้และไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
|
0.00 | |
4 | เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีระดับไขมันในเลือดสูงเกินค่ามาตรฐาน สามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้
|
0.00 | |
5 | เพื่อให้ผู้ที่มีระดับความดันโลหิตสูงเกิน ๑๔๐/๙๐ mm/Hg สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 24,500.00 | 0 | 0.00 | |
20 ก.ย. 61 | จัดอบรมให้ความรู้ตามโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 1 | 0 | 12,700.00 | - | ||
25 ก.ย. 61 | จัดอบรมให้ความรู้ตามโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ครั้งที่ 2 | 0 | 11,800.00 | - |
1.เขียนโครงการเสนอขออนุมัติต่อผู้บริหารเพื่อของบประมาณสนับสนุนจาก กองทุนหลัก ประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลนาปะขอ
2.แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ
3.จัดประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเตรียมงาน
4.จัดทำแบบฟอร์มการรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ
5.จัดทำคำสั่งผู้เข้าร่วมโครงการ บัญชีรายชื่อบุคคลภายนอก
6.ประสานงานวิทยากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
7.จัดทำเอกสารคู่มือการอบรมและแบบประเมินผล
8.ดำเนินการอบรม
- จัดกิจกรรมครั้งที่ ๑ (ติดตามผลครั้งที่ ๑ ทุก ๒ เดือน)
- จัดกิจกรรมครั้งที่ ๒ (ติดตามผลครั้งที่ ๒ทุก ๒ เดือน)
9.สรุปและประเมินผลโครงการเสนอผู้บริหาร
- ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสุขภาพของตนเองสามารถเป็นแบบอย่างในการสร้างพฤติกรรมที่ถูกต้องในการดูแลตนเอง และความตระหนักถึงการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ
- ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยวัดจากการกำกับพฤติกรรมสุขภาพของตนเอง
- ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนผู้มีค่า BMIเกิน มีค่า BMI ลดลงจากก่อนเข้าร่วมโครงการ
- ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนผู้มีค่าความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง มีระดับความดันโลหิตหรือไขมันในเลือดลดลงจากก่อนเข้าร่วมโครงการ
- ร้อยละ ๗๐ ของจำนวนผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง มีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจากก่อนเข้าร่วมโครงการ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 15:38 น.