โครงการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโรคหัดในเขตเทศบาลนครยะลา
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโรคหัดในเขตเทศบาลนครยะลา |
รหัสโครงการ | 62-L7452-5-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครยะลา |
วันที่อนุมัติ | 11 ตุลาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 11 ตุลาคม 2561 - 31 ธันวาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ธันวาคม 2561 |
งบประมาณ | 48,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางทรงศรี มะโรหบุตร พยาบาลวิชาชีพปฎิบัติการ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสุภาภรณ์ บุญพงศ์มณี หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันและควบคุมโรค |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.523,101.181place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 300 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมเปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคหัดในจังหวัดยะลายังมีการเกิดโรคอย่างต่อเนื่อง และมีการระบาดในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของวัคซีนต่ำ จากรายงานสถานการณ์โรคหัดจังหวัดยะลา 282 รายเสียชีวิต 5 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในจังหวัดอื่นๆ
สาเหตุเกิดจากการไม่ได้รับวัคซีนและได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจผิดคิดว่าวัคซีนผลิตมาจากส่วนประกอบของหมู จึงปฏิเสธการรับวัคซีน อีกทั้งความครอบคลุมของวัคซีนในพื้นที่ที่มีเด็กเสียชีวิตต่ำกว่าร้อยละ 60 ซึ่งตามเกณฑ์ที่กำหนดต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 จึงจะสามารถป้องกันโรคหัดได้สคร.12 สงขลา ยันยืนว่าวัคซีนโรคหัดที่นำมาใช้ในประเทศไทยเป็นวัคซีนที่ปลอดภัย ไม่มีส่วนประกอบมาจากหมู เป็นวัคซีนที่มีการใช้กันทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมุสลิม อย่างประเทศมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย ฯลฯ
โรคหัด เป็นโรคไข้ออกผื่น พบได้ทุกวัย และพบได้บ่อยในเด็กเล็ก อายุ 1-6 ปี เกิดจากเชื้อไวรัส Measles ซึ่งพบได้ในจมูกและลำคอของผู้ป่วย ติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยการไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด เชื้อไวรัสจะกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย และเข้าสู่ร่างกายโดยทางการหายใจ บางครั้งเชื้ออยู่ในอากาศเมื่อหายใจเอาละอองที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไปก็ทำให้เป็นโรคได้ ถ้าไม่มีภูมิต้านทานผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
อาการของโรคหัด เริ่มด้วยมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะและกลัวแสง อาการต่างๆ จะมากขึ้นพร้อมกับไข้สูงขึ้น และจะสูงขึ้นเต็มที่เมื่อมีผื่นขึ้นในวันที่ 4 ลักษณะผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆ โดยจะขึ้นที่หน้า บริเวณชิดขอบผม แผ่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา เมื่อผื่นแพร่กระจายไปทั่วตัว ซึ่งกินเวลาประมาณ 2-3 วัน ไข้ก็จะเริ่มลดลง ผื่นระยะแรกมีสีแดงจะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีแดงคล้ำ หรือน้ำตาลแดง บางครั้งจะพบผิวหนังลอกเป็นขุย การตรวจในระยะ 1-2 วัน ก่อนผื่นขึ้นจะพบจุดขาวๆ เล็กๆ มีขอบสีแดงๆ อยู่ในกระพุ้งแก้ม จะช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ก่อนที่จะมีผื่นขึ้น อาการแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในเด็กเล็กคือ หูส่วนกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ อุจาระร่วง สมองอักเสบ อุจจาระร่วง สมองอักเสบ พบได้ประมาณ 1 ใน 1,000 ราย ซึ่งจะทำให้มีความพิการเหลืออยู่ ถ้าไม่เสียชีวิตทั้งนี้ โรคหัดป้องกันด้วยการฉัดวัคซีน ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขให้วัคซีนป้องกันโรคหัด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน ครั้งที่ 2 เมื่อเด็กอายุ 2 ปี ครึ่ง โดยให้ในรูปของวัคซีนรวมป้องกันโรคคางทูม หัด หัดเยอรมัน (MMR)
และรายงานสถานการณ์ของโรคหัดในเขตเทศบาลนครยะลา จากกลุ่มงานเวชกรรมสังคมโรงพยาบาลศูนย์ยะลาพบผู้ป่วยสงสัยโรคหัด อายุ ต่ำกว่า 1 ปี จำนวน 5 ราย, อายุ 2-3 ปี จำนวน 1 ราย,อายุ 3 – 4 ปี จำนวน
1 ราย รวมเป็น 7 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่ยังไม่ถึงเกณฑ์รับวัคซีนหัดและผู้ปกครองเด็กปฏิเสธการรับวัคซีนป้องกันโรคหัดดังนั้นการให้ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องวัคซีนแก่ผู้ปกครอง ครูผู้ดูแลเด็กเจ้าหน้าที่ และการประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคหัดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและชุมชน ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยป้องกันปัญหาการระบาดของโรคหัดเนื่องจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและชุมชน อาจมีการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีเด็กอายุ 1- 6 ปี อาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นกลุ่มงานป้องกันและควบคุมโรคสำนักการศึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ และกองสวัสดิการจึงได้จัด “โครงการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโรคหัดในเขตเทศบาลนครยะลา”ในครั้งนี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่มีความเข้าใจเรื่องโรคหัด และวัคซีนป้องกันโรคหัดที่ถูกต้อง
|
80.00 | |
2 | 2. เพื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคหัด ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และในชุมชน
|
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 48,500.00 | 0 | 0.00 | 48,500.00 | |
??/??/???? | กิจกรรมที่ 1 จัดประชุมทางวิชาการแนวทางการป้องกันโรคหัดระบาด แก่ครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 300 คน ระยะเวลา ครึ่งวัน | 0 | 14,300.00 | - | - | ||
??/??/???? | กิจกรรมที่ 2 ประชาสัมพันธ์การป้องกัน โรคหัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 5 แห่ง ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง จำนวน 6 แห่ง และรถประชาสัมพันธ์ จำนวน 1 ผืน รวม 12 ผืน | 0 | 34,200.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 0 | 48,500.00 | 0 | 0.00 | 48,500.00 |
- ครู ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจเรื่องโรคหัด และวัคซีนป้องกันโรคหัดที่ถูกต้อง
- ไม่เกิดการระบาดของโรคหัดเพิ่มขึ้น และไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคหัด ในเขตเทศบาลนครยะลา
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2561 00:00 น.