โครงการส่งเสริมการคัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบาหวานและความดันโลหิตสูงเชิงรุก
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการคัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบาหวานและความดันโลหิตสูงเชิงรุก |
รหัสโครงการ | 62-L8402-1-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนขัน |
วันที่อนุมัติ | 5 เมษายน 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2562 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 58,432.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอิสรา บุญกำเหนิด |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.173,100.263place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 250 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 2116 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สภาพปัจจุบันปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสาธารณสุขส่วนใหญ่มีสาเหตุจากประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชนซึ่งได้จากสถานการณ์ของปัญหาสาธารณสุขที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่พบว่ากลุ่มโรค Metabolic โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน กำลังเป็นปัญหาสำคัญในทุกพื้นที่ อีกทั้งยังมีแนวโน้มเป็นปัญหาต่อเนื่องในอนาคต ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหากลุ่มโรค Metabolic ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การรับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ตลอดจนสภาพปัญหาทางจิตใจ อารมณ์ และความเครียดการเสริมสร้างให้ประชาชนมีพฤติกรรมที่ดีสามารถจัดการลดความเสี่ยงของตนเองได้จะเป็นกลไกพื้นฐานที่สำคัญของการป้องกันและควบคุมโรคโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง ซึ่งการสร้างความรู้ ความเข้าใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่มีผลเพียงพอที่จะทำให้เกิดความตระหนักในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพได้ การจัดกิจกรรมฝึกทักษะและการเสริมสร้างพลังแก่กลุ่มเป้าหมายจึงจำเป็นต้องควบคู่กับการให้ความรู้ ความเข้าใจนำไปสู่การปฏิบัติ นอกจากนี้การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งในครอบครัว และชุมชนก็จะส่งผลให้ประชาชนตระหนักและมีพฤติกรรมที่ดีได้ ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะเร่งการทำงานเชิงรุกในชุมชนเพื่อตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป และให้การวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อไป ซึ่งทาง โรงพยาบาลส่งเสรมสุขภาพตำบลควนขัน จัดตั้งคลินิก DPAC ในหน่วยงานเพื่อให้บริการคลินิกผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อรังส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุศักยภาพในการดูแลตนเองไม่เต็มที่เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้ควบคุมโรคได้และลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นควรมีการส่งเสริมศักยภาพในการดูแลตนเองเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี โดยทั่วหน้า ผลจากการดำเนินงานตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพของประชาชนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนขัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาจากการดำเนินการคัดกรองโรคเรื้อรัง ความดันโลหิตสูงในประชากร 35 ปีขึ้นไปจำนวน 1,663 คน ซึ่งได้รับการคัดกรองความดัน 1,619 คิดเป็นร้อยละ 97.35 คัดกรองเบาหวาน จำนวน 1,860 ซึ่งได้รับการคัดกรอง 1,828 คิดเป็นร้อยละ 98.28 โดยมีกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน 286 คน และกลุ่มสี่ยงความดันโลหิตสูงจำนวน 300 คน โดยกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดได้รับการติดตามและให้ความรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้นเพื่อให้กิจกรรมดังกล่าวดำเนินต่อไปและเพื่อให้ประชากร 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองฯ เป็นประจำทุกปีจึงได้จัดทำโครงการในปี 2562 ต่อไป จากสภาพปัญหาดังกล่าว ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนขัน ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยโรคเรื้อรังรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกถ้าหากไม่มีการแก้ปัญหาที่แท้จริง จึงเกิดโครงการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานขึ้นในประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกกลุ่มอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรู้จักการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคในอนาคต ให้มีความรู้และสามารถดูแลตนเองและคนในครอบครัว เกิดพฤติกรรมที่ดีและสามารถลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรังเพิ่มได้ในระยะยาว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ร้อยละ 95 ของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองภาวะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวานและได้รับการประเมินผลภาวะสุขภาพเบื้องต้น ร้อยละ 95 ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองภาวะเสี่ยงความดันโลหิตและเบาหวาน ตลอดถึงได้รับการประเมินผลภาวะสุขภาพเบื้องต้น |
95.00 | |
2 | เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงทุกรายได้รับการตรวจน้ำตาลในเลือดและตรวจวัดความดันโลหิตสูง กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานได้รับการเจาะหาน้ำตาลในเลือดทุกราย |
100.00 | |
3 | ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานได้รับการดูแลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการส่งต่อเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง |
100.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 58,432.00 | 0 | 0.00 | |
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 | กิจกรรมย่อย ดำเนินการตรวจน้ำตาลในเลือดและตรวจวัดความดันโลหิตในกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งให้สุขศึกษาการปฏิบัติตัวในการเฝ้าระวังโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงโดยการลงให้บริการในพื้นที่เขตรับผิดชอบของ รพ.สต.ควนขัน ได้แก่ หมู่ที่ 2,3,4,8 และ 12 | 0 | 50,682.00 | - | ||
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 | กิจกรรมย่อย ดำเนินกิจกรรมสัญจรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้ง 4 หมู่บ้านและหมู่บ้านต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม | 0 | 7,750.00 | - |
๑. วิเคราะห์ข้อมูลปัญหาของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
๒. จัดทำโครงการขออนุมัติจากกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลคูหาใต้
๓. ประชุมชี้แจงโครงการการดำเนินงานกับอาสาสมัครสาธารณสุข
๔. จัดทำแผนการออกตรวจน้ำตาลในเลือด และตรวจวัดความดันโลหิต
๕. ประชาสัมพันธ์โครงการแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย
๖. ดำเนินการตรวจน้ำตาลในเลือดและตรวจวัดความดันโลหิตในกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งให้สุขศึกษาการปฏิบัติตัวในการเฝ้าระวังโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
๗. ดำเนินกิจกรรมสัญจรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้ง 4 หมู่บ้านและหมู่บ้านต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
๘. ให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแก่กลุ่มเสี่ยง นัดติดตาม
๙. ประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงาน
ประชาชนในเขตพื้นที่หมู่ 2,3,4,8 และ 12 ตำบลคูหาใต้ อายุ ๓๕ ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน พร้อมทั้งกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานได้รับการดูแลและให้ความรู้ด้านโภชนาการอาหาร การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพจิต และลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วนลงพุง เบาหวานและความดันโลหิตสูง ได้ร้อยละ ๙๐ ตลอดจนผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนของ โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2562 11:45 น.