โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน |
รหัสโครงการ | 60-L4143-1-6 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารู |
วันที่อนุมัติ | 8 กุมภาพันธ์ 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 เมษายน 2560 - 31 สิงหาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 27,075.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอิสมาแอล จึเลาะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางเรวดี ขาวเกตุ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.552,101.324place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 43 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นโรคซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวเลขของผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงทั้งสิ้น 189 ล้านคน และคาดว่าในอีก 20 ปี ข้างหน้าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 324 ล้านคน ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี และส่วนใหญ่เสียชีวิตจากภาวะโรคแทรกซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันและควบคุมได้ อีกทั้งยังพบว่า อายุเฉลี่ยของการเริ่มต้นป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นน้อยลงเรื่อยๆ และมีแนวโน้มจะลุกลาม ไปถึงเด็กในอนาคตอันใกล้ด้วยวิถีการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โรคเบาหวานนอกจากจะเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคคือ “พันธุกรรม” และ “สิ่งแวดล้อม” ในส่วนของพันธุกรรมนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ขณะที่สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์แม่ แม้พันธุกรรมจะเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ แต่ก็สามารถควบคุมปัจจัยเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวได้ มีผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การควบคุมอาหารอย่างดี รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันโรคเบาหวาน โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงทางพันธุกรรม อีกทั้งยังเป็นการควบคุมโรค และป้องกันโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเพราะการควบคุมอาหารอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูง ในปีงบประมาณ 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารู สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้เพียง ร้อยละ 10.32 ซึ่งถือว่ายังควบคุมระดับน้ำตาล ได้น้อย เนื่องจากเป้าหมายคือ ต้องควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี มากกว่าร้อยละ 40 ดังนั้นทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารู ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ประจำปี 2560 ขึ้น เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลตนเองให้ถูกต้อง เหมาะสมในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
|
||
2 | 2. เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี มากกว่าร้อยละ 40
|
||
3 | 3. เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานได้รับการคัดกรอง เท้า มากกว่าร้อยละ 60
|
||
4 | 4. อัตราผู้ป่วยโรคเบาหวานได้รับการตรวจ HBA1Cร้อยละ 90
|
- จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ประชาสัมพันธ์โครงการ และแจ้งกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยในการอบรมแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 รุ่นๆ ละ 43 คน มีกิจกรรมดังนี้ 3.1 เจาะเลือดตรวจค่า HbA1c ในกลุ่มเป้าหมาย 3.2 อบรมเชิงปฏิบัติการแก่กลุ่มเป้าหมาย -การบริโภคอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน -การออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน -การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย และการสังเกตตนเองเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย -การรับประทานยาในผู้ป่วย และการขาดยาจะส่งผลอย่างไร 3.3 การคัดกรองเท้าในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี มากกว่าร้อยละ 40
- อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2560 10:50 น.