โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการดูแลคนพิการติดบ้าน ติดเตียง
| ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการดูแลคนพิการติดบ้าน ติดเตียง |
| รหัสโครงการ | 62-L8302-3-29 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบเกี่ยวกับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมผู้พิการเทศบาลตำบลมะรือโบตก |
| วันที่อนุมัติ | 28 มิถุนายน 2562 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2562 - 31 สิงหาคม 2562 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2562 |
| งบประมาณ | 12,125.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายสาเล็ง อาหะมะ |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลมะรือโบตะวันตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.337,101.66place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มวัยทำงาน | 24 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | 19 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
|---|---|---|---|---|
| 1 | จำนวนคนพิการ | 19.00 | ||
| 2 | จำนวนผู้ดูแลคนพิการและแกนนำ อสม.มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถส่งเสริมคนพิการให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน | 10.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการในชุมชนเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยมีญาติหรือผู้ดูแลและคนในชุมชนมีส่วนร่วมเนื่องจากความพิการทางร่างกายและทางจิตส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทำให้ผู้พิการไม่สามารถดำรงชีวิตได้เทียบเท่าคนปกติไม่สามารถเข้าถึงระบบบริการทางการแพทย์ทำให้ขาดการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้พิการรวมไปถึงการเป็นภาระต่อญาติหรือผู้ดูแล ในเขตความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลมะรือโบตก มีชุมชนทั้งหมด 12 ชุมชน จำนวนประชากรทั้งหมด 8,400 คน มีจำนวนผู้พิการทั้งหมด 276 คน ผู้พิการติดเตียง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 4.71 และ 0.15 ของประชากรทั้งหมด และผู้พิการติดบ้าน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.17 และ 0.07 ของประชากรทั้งหมด โดยมีผู้พิการแยกประเภท ดังนี้ ประเภทพิการทางการมองเห็นจำนวน 26 คน ประเภทพิการทางการได้ยิน/สื่อความหมายจำนวน 39คน ประเภทพิการทางด้านการเคลื่อนไหว/กายจำนวน 126 คน ประเภทพิการทางด้านจิตและพฤติกรรมจำนวน 39 คน ประเภทพิการทางด้านสติปัญญา/การเรียนรู้ จำนวน 31 คน และมีความพิการซ้ำซ้อนจำนวน15 คน ซึ่งการดำเนินงานในด้านการดูแลผู้พิการยังขาดความต่อเนื่องรวมไปถึงความครอบคลุมในการดูแลผู้พิการยังไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ดังนั้นเพื่อให้มีการดูแลผู้พิการอย่างต่อเนื่องยั่งยืนของผู้พิการในเขตเทศบาลตำบลมะรือโบตก และแกนนำ/อสม. ให้มีศักยภาพในการปฏิบัติงานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการรวมทั้งผู้พิการรายเดิมที่จำเป็น ต้องได้รับการดูแล และผู้พิการที่ยังไม่เคยได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้พิการในชุมชนที่ดีขึ้นและคลอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลมะรือโบตก ชมรมผู้พิการเทศบาลตำบลมะรือโบตก จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้พิการมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมให้ครอบครัว ชุมชนของผู้พิการ มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ ตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้พิการในการดำรงชีวิตให้มีสุขภาพที่ดีทั้งกายและจิตใจ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 |
|
19.00 | |
| 2 | เพื่อให้ผู้ดูแลคนพิการและแกนนำ อสม.มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถส่งเสริมคนพิการให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
|
20.00 |
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 0 | 12,125.00 | 1 | 12,125.00 | 0.00 | |
| 1 - 31 ส.ค. 62 | อบรมให้ความรู้การดูแลผู้พิการและแกนนำ อสม.และกิจกรรมเยี่ยมเยียน ผู้พิการติดบ้าน ติดเตียง จำนวน 19 ราย | 0 | 12,125.00 | ✔ | 12,125.00 | 0.00 | |
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 12,125.00 | 1 | 12,125.00 | 0.00 | ||
1.เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติต่อคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลมะรือโบต
2.ประสานหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง
3.ประชาสัมพันธ์
4. ดำเนินงานตามโครงการ
5. รายงานผล
1.ผู้ผู้ดูแลคนพิการและอาสาสมัครชุมชนสามารถนำความรู้ที่ได้รับการอบรมไปปฏิบัติแก่ผู้พิการได้ 2.ผู้พิการสามารถดูแลตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 3.ผู้พิการมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2562 12:47 น.