โครงการคลินิกฟ้าใส ปอดไร้ควันบุหรี่
ชื่อโครงการ | โครงการคลินิกฟ้าใส ปอดไร้ควันบุหรี่ |
รหัสโครงการ | 62-L5192-1-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ท่าไทร |
วันที่อนุมัติ | 23 พฤษภาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2561 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2562 |
งบประมาณ | 34,925.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนุชจรี มณีภาค |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.721,100.93place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบัน ปัญหาจากการสูบบุหรี่ทำให้เกิดผลกระทบในระบบสุขภาพของประชาชนทั้งทางตรงคือผู้สูบบุหรี่เอง และทางอ้อมผู้ที่รับพิษจากควันบุหรี่ที่ผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สูบคือบุหรี่มือสองทั้งที่ประเทศไทยมีการรณรงค์ควบคุมการบริโภคยาสูบเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2551 บุหรี่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 5 ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้เสียชีวิตจากโรควัณโรคโรคเอดส์และไข้มาลาเรียรวมกันและคาดว่าในปีพ.ศ. 2573 จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านคนต่อปีโดยพบว่ามะเร็งที่มีอุบัติการณ์สูงขึ้นในผู้สูบบุหรี่ได้แก่มะเร็งปอดที่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทยอีกทั้ง การสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผู้สูบเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันและเกิดปัญหาการสูญเสียการทำงานของหลอดเลือดโคโรนารีที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจการสูบบุหรี่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้ผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอกและหัวใจวายโรคความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นผิดปกติ ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อมจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสูงกว่าคนที่ไม่เคยได้รับ 1.3 เท่า และจะมีโอกาสเกิดมะเร็งปอดได้มากขึ้นประมาณ 1.8 เท่าโดยกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษในการได้รับควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อมได้แก่ทารกในครรภ์และเด็กหากมารดาตั้งครรภ์สูบบุหรี่หรือได้รับควันดังกล่าวจะมีโอกาสเกิดผลเสียต่อทารกในครรภ์และเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์สูงเช่นทารกน้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนดเด็กหากได้รับควันดังกล่าวจะมีโอกาสเกิดภาวะไหลตายปอดอักเสบติดเชื้อโรคภูมิแพ้โรคหอบหืดได้มากกว่าเด็กทั่วไป สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ปี 2557พบว่าจำนวนประชากรมีอายุ ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป54.8 ล้านคนเป็นผู้สูบบุหรี่ 11.4 ล้านคน (ร้อยละ 20.7 )เป็นผู้สูบบุหรี่ประจำ 10 ล้านคน (ร้อยละ 18.2 )สูบนาน ๆ ครั้ง 1.4 ล้านคน (ร้อยละ 2.5 )ในกลุ่มวัยทำงาน (25 – 59 ปี) มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด (ร้อยละ 23.5 ) รองลงมากลุ่มผู้สูงอายุ (60ปีขึ้นไป) และกลุ่มเยาวชน(15 – 24 ปี) (ร้อยละ 16.6 และ 14.7 ตามลำดับ) ผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 18.4 เท่า (ร้อยละ40.5 และ 22 ตามลำดับ)เมื่อเปรียบเทียบกับปี2556พบว่าเพศชายและหญิงมีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้นและทุกกลุ่มมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่น้อยลงโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่อายุน้อยลงค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่นคือจากปี 2550 เยาวชนเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 16.8 ปีในปี 2557 ลดลงเป็นอายุ 15.6 ปีชี้ให้เห็นว่า อายุของนักสูบบุหรี่หน้าใหม่มีอายุน้อยลง จึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น และในประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากบุหรี่คิดเป็น 12 % ของการตายทั้งหมดรัฐบาลสูญเสียทางเศรษฐกิจกับค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่เกิดจากบุหรี่ถึง 43.6 พันล้านบาท คิดเป็น 0.5% ของ GDP ถ้ายังไม่มีมาตรการใด ๆ ในการป้องกันและเฝ้าระวังนักสูบบุหรี่หน้าใหม่อีกทั้งบุหรี่เป็นเพียงสินค้าชนิดเดียวที่ถูกกฎหมาย แต่เป็นอันตรายต่อทุกคนทั้งที่เป็นผู้สูบบุหรี่ และผู้ไม่สูบบุหรี่ แต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง จึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนให้ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่โดยยึดหลักการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งการดูแลสร้างเสริมสุขภาพการแนะนำให้มาบำบัดจัดระบบเฝ้าระวังไม่ให้กลับไปเสพซ้ำโดยการสร้างแรงจูงใจ การตระหนักในปัญหา ร่วมกันให้คำปรึกษา ติดตาม ดูแล และการให้ความรู้แก่ประชาชนให้สามารถนำไปปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการป้องกันที่ดีโดยการสร้างการตระหนัก จูงใจประชาชนเลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพดี ของตนเองและบุคคลรอบด้าน งานป้องกันและควบคุมโรค กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองคอหงส์ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการสูบบุหรี่ซึ่งยังมีอยู่เป็นจำนวนมากสมควรที่จะต้องดำเนินการแก้ไขจึงได้จัดทำโครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน ประจำปี ๒๕๖๑ ขึ้นเนื่องจากบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเสียชีวิตอันดับต้นของคนไทยที่สามารถป้องกันได้โดยการช่วยเหลือให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบและป้องกันหรือลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ให้ห่างไกลจากการสูบบุหรี่
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ อสม.มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลกระทบ ต่อสุขภาพจากพิษภัยของบุหรี่ และสามารถคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ ได้อย่างถูกต้อง 1.อสม.มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ ผลกระทบ ต่อสุขภาพจากพิษภัยของบุหรี่ และสามารถคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ ได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 100 |
100.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ ผู้นำและแกนนำในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลกระทบ ต่อสุขภาพจากพิษภัยของบุหรี่ และสามารถคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ ได้อย่างถูกต้อง 2.ผู้นำและแกนนำในชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลกระทบ ต่อสุขภาพจากพิษภัยของบุหรี่ และสามารถคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ ได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 |
80.00 | |
3 | 3. เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่
|
50.00 | |
4 | 4 เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เข้าสู่กระบวนการบำบัดได้ และสามารถเลิกสูบบุหรี่
|
10.00 | |
5 | 5. เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่ป้องกันตนเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ ต่อไป
|
50.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 88,925.00 | 0 | 0.00 | |
1 ต.ค. 61 - 30 ก.ย. 62 | กิจกรรมการคัดกรองบุหรี่ | 0 | 4,500.00 | - | ||
1 พ.ค. 62 | คลินิกเลิกสูบบุหรี่ | 0 | 60,000.00 | - | ||
27 มิ.ย. 62 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้ | 0 | 5,875.00 | - | ||
28 มิ.ย. 62 | อบรมให้ความรู้ผู้นำ และแกนนำในชุมชน ในพื้นที่ตำบลลำไพล | 0 | 18,550.00 | - |
กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมอบรมให้ความรู้กลุ่มเป้าหมาย
1.1 อบรมให้ความรู้กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขให้มีความรู้ เรื่องโทษและพิษภัยของบุหรี่ เรื่องการคัดกรองผู้สูบบุหรี่
1.2. อบรมให้ความรู้ผู้นำและแกนนำ ในชุมชน
1.3 ให้ความรู้และทักษะพร้อมบำบัดให้แก่ผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
1.4 ประเมินผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 2 การตรวจประเมินคัดกรองผู้สูบบุหรี่
๑. จัดเตรียมกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ข้อมูลจากโปรแกรมข้อมูลjhcis ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
๒. ดำเนินการตรวจคัดกรอง
กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมการบำบัดให้กับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
1. นำกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ มาเข้าคลินิก โดยการให้คำปรึกษาการเลิกสูบบุหรี่ระยะสั้น และการใช้ยาสมุนไพรในการบำบัด
2. ติดตามการเลิกสูบบุหรี่ ระยะเวลา 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี
3. ส่งรายชื่อผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ มากกว่า 6 เดือน เข้ารับประกาศในโครงการ คนเทพาหัวใจหิน และคนเทพาหัวใจเพชร ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข
1.ผู้นำและแกนนำในชุมชน อสม.มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลกระทบ ต่อสุขภาพจากพิษภัยของบุหรี่ และสามารถคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ ได้อย่างถูกต้อง
2.ผู้สูบบุหรี่เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่มากขึ้น
3.. ผู้สูบบุหรี่สามารถป้องกันตนเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2562 11:08 น.