กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ยาสูบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญลำดับต้นของปัญหาสุขภาพของโลกในปัจจุบันเป็นเหตุให้คนตายทั่วโลกปีละ 6 ล้านคนและทำให้เกิดการตายสูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากความดันโลหิตสูงทำให้เกิดภาระโรคเป็นอันดับ 4 รองจากเด็กน้ำหนักต่ำกว่ารับในประเทศไทยทำให้เกิดภาระโรคสูงเป็นอันดับ 2 รองจากปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มแอลกอฮอล์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 45,136 คนต่อปี (2004) เป็น 50,710 คนต่อปี ( 2009) จากโรคที่เนื่องมาจากการสูบบุหรี่เช่นและ สามารถลด ละเลิก บุหรี่ต่อไป สถานการณ์การบริโภคยาสูบของประชากรไทยในปี พ.ศ. 2552-2557 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติอัตราสูบบุหรี่มีแนวโน้มลดลงในช่วง 10 ปีแต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี พ.ศ.2554 และกลับลดลงอีกในปี พ.ศ.2556 แล้วมาเพิ่มขึ้นอีกในปี พ.ศ.2557โดยอัตราการสูบบุหรี่ภาพรวม ในปี พ.ศ. 2550,2552, 2554, 2556, 2557 คือร้อยละ 21.2,20.7, 21.4, 19.9,และ 20.7 จำนวนผู้ที่สูบบุหรี่ ปีพ.ศ. 2550, 2552, 2554, 2556 และ 2557 คือ 10.8, 10.9, 11.5, 10.8 และ 11.4 ล้านคนผู้สูบบุหรี่มวนเองลดลงจาก 5.3 ล้านคนเหลือไม่ถึง 4 ล้านคนแต่สูบบุหรี่ซองเพิ่มจาก 6.1 เป็น 6.5 ล้านคน)ส่วนอัตราและจำนวนผู้สูบเยาวชน (15-24 ปี)ในปี 2552, 2554, 2556, 2557คือร้อยละ 15.2,16.6,15.07และ 14.7 (1.67, 1.70, 1.44 และ 1.41 ล้านคน)ในปี 2557 อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 18.4 เท่า (ร้อยละ40.5 และ 2.2 ตามลำดับ) นอกเขตเทศบาลมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าในเขตเทศบาล 1.3 เท่า (ร้อยละ 23.0 และ 18.0 ตามลำดับ) )ในขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-18 ปี ในปี พ.ศ. 2550, 2554 และ 2557 ร้อยละ 7.3, 9.2 และ9.3 ตามลำดับ สำหรับเขตสุขภาพที่ 12อัตราการสูบบุหรี่ในประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปในปี พ.ศ. 2550, 2554 และ 2557ร้อยละ 24.8, 25.3 และ 24.1 ตามลำดับ และในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-18 ปี ร้อยละ 9.8, 12.1 และ 12.3 ตามลำดับในขณะที่จังหวัดยะลาอัตราการสูบบุหรี่ในประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปในปี พ.ศ. 2550, 2554และ 2557ร้อยละ23.32, 24.01 และ 23.2 ส่วนในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-18 ปีในปี พ.ศ. 2550 และ 2554 ร้อยละ 10.07 และ 9.09 ตามลำดับซึ่งอัตราการสูบบุหรี่ในภาพรวมในเขตสุขภาพที่ 12 และของจังหวัดยะลาพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ทั้งในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป และในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-18 ปี ยังสูงกว่าในระดับประเทศ เมื่อพิจารณาสถานที่สาธารณะที่พบเห็นการสูบบุหรี่ในจังหวัดยะลา พบว่า ตลาดสดหรือตลาดนัด ร้อยละ89.0ร้านอาหาร/ภัตตาคารร้อยละ 81.2 สถานีขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 65.6 ศาสนสถาน ร้อยละ 49.9 อาคารสถานที่ราชการ ร้อยละ 34.9 สถานบริการสาธารณสุข ร้อยละ 21.8 สถานศึกษาระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา ร้อยละ 23.3 และอาคารมหาวิทยาลัย 17.1นอกจากนั้น จากการวิเคราะห์ระบบรายงานระบบติดตามและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด (บสต.1-5)ของจังหวัดยะลา พบว่า การสูบบุหรี่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่การเสพย์ยาเสพติดประเภทอื่นๆ

จากสภาพปัญหาดังกล่าวในปี 2558สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลาได้ประกาศเป็นนโยบายของจังหวัดในการขับเคลื่อนจังหวัดยะลาปลอดบุหรี่โดยคัดเลือกอำเภอรามันเป็นอำเภอนำร่องและในปี 2559 ขยายครอบคลุมทุกอำเภอ (8 อำเภอ) และได้มีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนจังหวัดยะลาปลอดบุหรี่ระหว่างหน่วยงานระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ซึ่งในระยะแรกกำหนดให้ชุมชนต้นแบบปลอดบุหรี่อำเภอละ 1 ชุมชนศาสนสถาน (วัด มัสยิด และสถาบันศึกษาปอเนาะ) ต้นแบบปลอดบุหรี่ประเภทละ 1 แห่ง/อำเภอสถานศึกษาต้นแบบปลอดบุหรี่ อำเภอละ 1 แห่ง สถานที่ราชการต้นแบบปลอดบุหรี่ อำเภอละ 1 แห่ง บุคคลต้นแบบตำบลละ 1 คน (58 ตำบล)นอกจากการสร้างสิ่งแวดล้อมสถานที่สาธารณะปลอดบุหรี่ตามกฎหมายแล้วยังมีการบริการช่วยเลิกบุหรี่ โดยให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดบริการคลินิกเลิกบุหรี่ (คลินิกฟ้าใส) เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการลด ละ เลิกบุหรี่ ดังนั้นมัสยิดอูซีซาร์อัลตักวาบ้านเจาะลีมัส ม.4ต.อาซ่อง ได้จัดทำโครงการมัสยิดปลอดบุหรี่ เพื่อให้สรรพบุรุษมัสยิดอูซีซาร์อัลตักวา มีความรู้ โทษ พิษภัยของบุหรี่ และ สามารถลด ละเลิก บุหรี่และมัสยิดอูซีซาร์อัลตักวา ปลอดจากควันบุหรี่ ต่อไป