โครงการห่วงใย สตรีไทย ห่างไกลมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการห่วงใย สตรีไทย ห่างไกลมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2563 |
รหัสโครงการ | 63-L8406-01-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน |
วันที่อนุมัติ | 4 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 พฤษภาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 25,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายซอหมาด บาหลัง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 125 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งของสตรีในประเทศไทย ซึ่งทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในสตรี พบได้ถึง ๓ คน ในประชากรหนึ่งแสนคน ในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเสียชีวิต ประมาณ ๔,๕๐๐ ราย ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ ๓๐ - ๕๐ ปี ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจ Pap Smear และหากทำทุก 1 ปี ในกรณีกลุ่มเสี่ยง สามารถลดการเป็นมะเร็งระยะลุกลามได้ ๙๒ % ถึงแม้กระบวนการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก จะง่าย สะดวก ราคาถูก แต่ยังพบว่าสตรีจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญ มีทัศนคติ ที่ไม่ดีต่อการตรวจ Pap Smear ส่วนโรคมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องทำการตรวจค้นหามะเร็งเต้านมใน ระยะเริ่มต้น การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก การค้นพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ และการรักษาอาจทำได้โดยการตัดเฉพาะก้อนมะเร็งออกไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทั้งเต้านม ในทางตรงกันข้ามหากไม่มีการตรวจค้นหามะเร็งเต้านม รอจนกระทั่งมีอาการผิดปกติ มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ แล้ว และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จากผลการดำเนินงานตำบลควนโดน ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจำนวน 460 รายจากกลุ่มเป้าหมาย 1,609 ราย คิดเป็นร้อยละ 28.59 ซึ่งยังถือว่าต่ำเกณฑ์ (ร้อยละ 60) จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า กลุ่มคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ยังไม่เข้ารับการตรวจฯจะเป็นกลุ่มที่ยากต่อการติดตามเข้ารับบริการ และการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองที่ไม่พบความผิดปกติ อาจเกิดจาก การตรวจที่ไม่ถูกต้อง เทคนิคหรือแบบการตรวจคัดกรองที่มีความซับซ้อนไม่เข้าใจ พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายและ อสม. ยังขาดทักษะ ความเข้าใจในเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดนจึงได้จัดทำโครงการห่วงใย สตรีไทย ห่างไกลมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ประจำปี 2563เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมแบบยั่งยืนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อค้นหา ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ในสตรีวัย 30-60 ปี และได้รับการตรวจคัดกรอง โดยเจ้าหน้าที่ ร้อยละ 25 สตรีกลุ่มเป้าหมาย 30-60 ปี และได้รับการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 25 |
25.00 | 125.00 |
2 | เพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ในหญิง 30-70 ปีขึ้นไป ได้รับการมะเร็งเต้านม ด้วยตนเอง หรือเจ้าหน้าที่ ร้อยละ 85 สตรี อายุ 30-70 ปี ได้รับการสอนตรวจเต้านมอย่างถูกต้องร้อยละ 85 |
85.00 | 125.00 |
3 | ส่งรักษาต่อโรงพยาบาล ในรายที่พบการผิดปกติ ตั้งแต่ระยะแรก ร้อยละ 100 ที่พบผิดปกติ ได้รับการส่งต่อ |
100.00 | 0.00 |
18 - 19 ส.ค. 63 | กิจกรรมพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติการคัดกรองเต้านมและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก | 60 | 12,500.00 | ✔ | 12,500.00 | |
250 | 25,000.00 | 3 | 25,000.00 | |||
20 - 21 ส.ค. 63 | กิจกรรมพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติการคัดกรองเต้านมและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก | 65 | 12,500.00 | ✔ | 12,500.00 | |
22 - 27 ส.ค. 63 | คัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธีแปบสเมียร์ | 125 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
- สตรีกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
- สตรีกลุ่มเป้าหมายรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมแล้วพบความผิดปกติได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
- อสม. และแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว มีความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและสามารถถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับให้กลุ่มเป้าหมายและสมารถนำกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างครอบคลุม และสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2563 14:45 น.