โครงการสานพลังสตรี ร่วมใจป้องกันภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการสานพลังสตรี ร่วมใจป้องกันภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ปี 2563 |
รหัสโครงการ | 63-L6895-01-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองกันตัง |
วันที่อนุมัติ | 18 ธันวาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 13 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 34,380.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุพรรณนิกา ลีลาสำราญ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.41,99.519place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโรคมะเร็งทั้งหมดของสตรีไทย พบอัตราการเกิดโรคสูงในช่วงอายุ 30 - 50 ปี โดยทุกๆ 2 นาที จะมีผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน มีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 7 คนต่อวัน เป็น 14 คน ต่อวัน โดยโรคมะเร็งเต้านม มีสาเหตุโดยตรงจากปัจจัยทางพันธุกรรม ส่วนมะเร็งปากมดลูกพบว่า ประมาณ 70% ของผู้ป่วยโรคนี้ มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังของปากมดลูกจากการติดเชื้อไวรัส HPV การป้องกันโรคมะเร็งเต้านม โดยการตรวจเต้านมด้วยตนเอง หรือการตรวจเอ็กซเรย์ Mammogram ปีละ 1 ครั้งในกลุ่มเสี่ยง และการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ซึ่งมีการคัดกรอง 2 วิธี คือ 1) Pap smear เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด เพราะใช้เวลา 2 - 5 นาที และรู้ผลภายใน 2 – 4 สัปดาห์ 2) VIA เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที ซึ่งปัญหาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่จะสามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ ถ้าพบผู้ป่วยโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรก ดังนั้นหากสามารถกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้มีความรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าว พร้อมทั้งตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการตรวจค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก ก็จะทำให้อัตราการเกิดโรค อัตราการป่วยและอัตราการตายจากโรคมะเร็งลดลง กอรปกับหญิงวัยเจริญพันธุ์กลุ่มเป้าหมายไม่ค่อยมารับบริการ ทั้งนี้เพราะสตรีเป็นเพศที่มีความละอายไม่กล้า และความอดทนที่มีอยู่นี้ก็อาจจะเป็นทั้งคุณและโทษในคราวเดียวกันได้ เช่น เมื่อมีความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องของอวัยวะเพศแล้วไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกใครถึงเจ็บปวดก็มีความอดทน สิ่งนี้หากเป็นโรคร้ายก็อาจสายเกินแก้ที่ไม่สามารถช่วยได้ในภายหลัง สำหรับในเขตเทศบาลเมืองกันตัง พบว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม รวมจำนวน 39 รายเป็นรายใหม่ 2 ราย และผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก รวมจำนวน 19 ราย เป็นรายใหม่ 1 ราย ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม จึงมีความสำคัญและจำเป็น แม้จะเป็นงานยากต่อการปฏิบัติ ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองกันตัง ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อลดอัตราการเกิดโรคอัตราการป่วยและอัตราการตายจากโรคมะเร็งเต้านมและปากมดลูกในกลุ่มเป้าหมายในเขตเทศบาลเมืองกันตัง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้แกนนำสตรี ได้รับความรู้โรคมะเร็งเต้านม/มะเร็งปากมดลูกและสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง
|
0.00 | |
2 | เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
|
0.00 | |
3 | เพื่อให้ผู้ที่ตรวจพบความผิดปกติได้รับการส่งต่อเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม อีกทั้งได้รับการดูแลติดตามเยี่ยมให้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
|
0.00 |
- ประสานแกนนำสุขภาพในชุมชน สำรวจและจัดทำทะเบียนกลุ่มเป้าหมาย สตรีอายุ 30-60 ปี
- ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงพยาบาลกันตัง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกันตัง และประสานส่งผลตรวจทางห้องปฏิบัติการกับเครือข่ายบริการสุขภาพ อ.กันตัง
- เตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมสำหรับการดำเนินงาน
- อบรมเชิงปฏิบัติการแก่แกนนำสตรีในชุมชนทั้ง 12 ชุมชน จำนวน 100 คน
- ประเมินความรู้-ทักษะก่อนและหลังเข้ารับการอบรม
- จัดรณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม/มะเร็งปากมดลูก
- เชิงรุก ในชุมชนร่วมกับแกนนำกลุ่มสตรีที่ผ่านการอบรม ให้คำแนะนำ/ติดตาม/ชักชวนกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งหมุนเวียน 12 ชุมชน โดยใช้สื่อรณรงค์ร่วมด้วย - เชิงรับ บริการคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในเดือนรณรงค์ ในเดือนกุมภาพันธ์ -เดือนเมษายน 2563 ทุกวันอังคารของสัปดาห์ และวันหยุดราชการเดือนละ 2 วัน จำนวน 6 วัน 7. หลังเดือนรณรงค์ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกวันอังคารสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน 8. แจ้งผล/ติดตามและส่งต่อผู้ป่วยกรณีพบความผิดปกติทุกราย 9. ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ที่ตรวจพบความผิดปกติ หรือผู้ป่วย 10. รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ
- แกนนำสตรีในชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก มีทักษะสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งสามารถให้ คำแนะนำ/ติดตาม/ชักชวนกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
- สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 – 70 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมคิดเป็นร้อยละ 90
- สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 – 60 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคิดเป็นร้อยละ 20
- สตรีกลุ่มเป้าหมายที่ตรวจพบพบความผิดปกติได้รับการส่งต่อเพื่อการรักษาที่เหมาะสมร้อยละ 100
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2563 11:50 น.