โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลพะตง)
ชื่อโครงการ | โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลพะตง) |
รหัสโครงการ | 63 – L7890 -02-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลพะตง |
วันที่อนุมัติ | 21 พฤศจิกายน 2019 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - 5 พฤษภาคม 2020 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 มิถุนายน 2020 |
งบประมาณ | 80,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ร.ต.ต.อิสระ สุระสังวาลย์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.837,100.558place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 57 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประชากรสูงวัยในปี พ.ศ.2556 มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึง 9.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของประชากรทั้งหมดและจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32 หรือกว่า 20 ล้านคน ในอีก 20 ปีข้างหน้า (มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย, 2557, หน้า 19-22)
ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ พบได้หลากหลายและแตกต่างกันออกไปในแต่ละครอบครัวและในรายละเอียดปัญหาที่พบมากที่สุดของผู้สูงอายุ ได้แก่ มีรายได้น้อย ด้อยโอกาส เจ็บป่วยเรื้อรัง ว่างงาน ถูกทอดทิ้ง ประสบภัยพิบัติหรือมีติดสารเสพติดในผู้สูงอายุ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากสภาพพื้นฐานของผู้สูงอายุประกอบด้วย ปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านโภชนาการ ปัญหาด้านการดูแลสุขภาพและรักษาโรค ปัญหาด้านคำแนะนำทางกฎหมาย เป็นต้น ส่วนความต้องการมักจะเกิดจากผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเงินถึงร้อยละ 57.3 และมีความต้องการทางเศรษฐกิจร้อยละ 83.4 (ศศิพัฒน์ ยอดเพชร, 2549) สำหรับผู้สูงอายุมีความต้องการการดูแลทั่วไป การดูแลที่มีปัญหาหลงลืม การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับผู้สูงอายุ การมีกลุ่มกิจกรรมของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นความต้องการในการวางแผนจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ นอกจากผู้สูงอายุแล้วความต้องการของผู้ดูแลเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ผู้มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุยังคงเป็นครอบครัวโดยผู้ดูแลร้อยละ 81.2 เป็นบุตรหลานและญาติ ในขณะที่ผู้ที่ดูแลรับจ้างมีเพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 0.3 เท่านั้น (ชาย โพธิสิตา, สุขาดา ทวีสิทธิ์, 2552)
ปัญหาสุขภาพเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของผู้สูงอายุ จากรายงานของสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในประเทศไทยประชากรกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป พบโรคที่ทำให้ผู้สูงอายุสูญเสียสุขภาวะที่ดี 5 อันดับแรกในผู้สูงอายุชาย ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวานและโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้สูงอายุหญิง ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ สมองเสื่อมและโรคซึมเศร้า ตามลำดับ นี่คือภาระที่จะเกิดขึ้นกับสังคมและผู้ทำหน้าที่ดูแล นั่นหมายความว่ารัฐอาจจะต้องจัดตั้ง Nursing Home ขึ้นมาดูแลคนสูงอายุที่ไม่มีใครดูแล สืบเนื่องมาจากขนาด ครอบครัวที่เล็กลงและผู้สูงอายุส่วนหนึ่งไม่มีลูกหลาน การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ จึงต้องตกเป็นภาระของสังคม ต้นทุนค่ารักษาโรคของผู้สูงอายุทั้งหมดอาจประมาณการไม่ได้ แต่โรคกลุ่มมะเร็งกับโรคหัวใจมีราคาแพงที่สุด ดังนั้นแค่ 2 โรคนี้ประเทศชาติจ่ายเงินอย่างมหาศาล แผนงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกลุ่มผู้สูงอายุ พ.ศ.2557 (กระทรวงสาธารณสุข, 2557) ได้กล่าวถึงภาวะคุกคามด้านการดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1) ระบบการดูแลรักษาผู้สูงอายุยังไม่แตกต่างจากกลุ่มอายุอื่นมุ่งเน้นการรักษาโรค (Disease management) มากกว่าการรักษาแบบ Case management 2) มาตรฐานในการดูแลผู้สูงอายุในสถานบริการและในชุมชนต้องการการพัฒนา 3) ระบบและรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชนต่างๆ 4) บุคลากรที่มีองค์ความรู้และทักษะในการดูแลรักษาผู้สูงอายุ 5) รูปแบบของบริการสาธารณสุขในอนาคต เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยชะลอการเสื่อมของร่างกายและจิตใจมีการเสนอแนวทางการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับผู้สูงอายุทั้งทางร่างกายและจิตใจ
จากปัญหาอันนำมาซึ่งปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและครอบครัว สวัสดิการและสุขภาพอนามัยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล ประเด็นปัญหานี้จึงเป็นประเด็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐจะต้องกำหนดนโยบายเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นสังคมไทยก็จะประสบ ปัญหาในสังคม รัฐบาลจึงได้ดำเนินการเตรียมความพร้อม จัดทำนโยบายและแผนระยะยาวไว้รองรับซึ่งปรากฏในแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545 – 2565 (คณะกรรมการแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ, 2553, หน้า 31-57) ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการรองรับภาวะผู้สูงอายุไว้ 5 ยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในยุทธศาสตร์ที่ 2 การส่งเสริมผู้สูงอายุ มีรายงาน/งานวิจัยเสนอเพื่อสนับสนุนเหตุและผลที่จะนำไปสู่การวิจัย ตั้งแต่พ.ศ.2545 – ปัจจุบัน
ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลพะตง ขอรับงบประมาณเพื่อจัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลพะตง) เพื่อป้องกันภาวะคุกคามจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทั้งจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อม และโรคที่เกิดจากทางจิตใจ เช่นการมีภาวะโรคซึมเศร้า อีกทั้งเป็นการเสริมความรู้เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถพัฒนาองค์ความรู้ตัวเอง ไปให้ความรู้คนรอบตัวต่อไป กองสวัสดิการสังคม เทศบาลตำบลพะตงจึงมีความประสงค์ขอรับงบประมาณ ในการจัดทำโครงการในครั้งนี้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อสร้างทักษะและพัฒนาการดูแลตัวเองของผู้สูงอายุให้มากขึ้น ผู้สูงอายุผ่านการทำแบบประเมินด้านความรู้หลังการให้ความรู้ วิทยากร |
0.00 | |
2 | เพื่อป้องกันการมีภาวะซึมเศร้าและการเกิดภาวะติดบ้านติดเตียงในผู้สูงอายุ ส่งเสริมการออกกำลังกาย ผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพดีขึ้นจากการประเมินสุขภาพจากหน่วยบริการสาธารณะสุขในพื้นที่ |
0.00 |
- ประชุมวางแผนและจัดทำแผนปฏิบัติงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
- ประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเสียงตามสาย แผ่นพับประชาสัมพันธ์ เวปไซด์ และสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
- สร้างการตระหนักรับรู้ให้กับภาคประชาชน โดยการชี้แจงสภาพปัญหา ที่มาการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ กับผู้นำท้องที่ท้องถิ่นรับทราบ
- ประสานหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาวิทยากรที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ โดยตรง
- อบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติเพื่อผู้สูงอายุเพิ่มศักยภาพในการดูแลตนเองให้ดียิ่งขึ้น
- สรุปผลโครงการ
- เสริมสร้างทักษะและพัฒนาศักยภาพในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเอง
- เสริมสร้าง ป้องกันและลดภาวะโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2020 14:28 น.