กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 2019 ซึ่งมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้โรคไวรัสโคโรน่า หรือ COVID 19 เป็นโรคร้ายแรง ทำให้เกิดการตื่นตระหนกของประชาชนทั่วโลกและคนไทย ซึ่งพบ  การระบาดไปหลายประเทศส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมอย่างรุนแรงสถานการณ์การระบาดกำลังแพร่กระจายยังไม่สามารถควบคุมได้ สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส  โคโรน่า หรือ COVID 19 ทำให้เกิดไข้สูง จาม ไอ การอักเสบของปอดและเยื่อหุ้มปอดอย่างรุนแรง แต่อย่างไร  ก็ตามอัตราการตายไม่ได้สูงมากนักเพียง 1-3 % ร้ายแรงน้อยกว่า SAR ซึ่งมีอัตราการตาย 10% ดังนั้น มาตรการการป้องกันไม่ให้ติดโรค COVID 19 นั้น ถือว่าจำเป็นโดยการใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือ    เมื่อต้องเดินทางไปในที่ที่มีคนพลุกพล่าน และมีผู้ที่กลับจากพื้นที่เสี่ยง ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่อหรือเป็นที่ระบาดต่อเนื่องต้องถูกกักกัน ณ สถานที่ควบคุมเพื่อสังเกตอาการในพื้นที่ตำบลบาราโหม ซึ่งแนวโน้มการแพร่ระบาดในการกำจัดเชื้อโรคมีความจำเป็นต้องทำความสะอาดสถานที่ควบคุมในพื้นที่    ตำบลบาราโหม ดังนั้นจึงต้องป้องกันประชาชนในพื้นที่ในตำบลบาราโหมไม่ให้เสี่ยงรับเชื้อ โดยจัดหาแอลกอฮอล์ที่จำเป็นต่อการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID 19 โดยการทำความสะอาดสถานที่ควบคุมเพื่อสังเกตอาการในเขตพื้นที่ตำบลบาราโหม เพื่อให้การป้องกันการระบาดของการเกิดโรคมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับสถานที่สังเกตอาการในการป้องกันและควบคุมโรคในเขตพื้นที่ตำบลบาราโหม ในช่วงที่มีการระบาดของโรค  ในการจัดหาแอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่จำเป็นต่อการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID 19 ซึ่งช่วงในการเกิดโรคระบาดได้ขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่ของโรงเรียนบ้านปาเระ เป็นสถานที่สังเกตอาการในพื้นที่ตำบลบาราโหม และในเดือนกรกฎาคม 2563  สืบเนื่องจากทางโรงเรียนต้องใช้สถานที่เพื่อเตรียมเปิดการเรียนการสอน จึงต้องทำความสะอาดฆ่าพ่นเชื้อสถานที่ที่ใช้ในการสังเกตอาการในพื้นที่ตำบลบาราโหม และยังต้องมีมาตรการฆ่าพ่นเชื้อทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า หรือ COVID 19 โดยได้ย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ที่ใช้ในการสังเกตอาการในพื้นที่ตำบลบาราโหม ณ อาคารองค์การบริหารส่วนตำบลบาราโหม หลังเก่า สังเกตอาการผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อและใช้เป็นสถานที่กักตัวในพื้นที่ตำบลบาราโหมต่อไป