โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัย ให้รู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านลาเกาะ
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กปฐมวัย ให้รู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านลาเกาะ |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านลาเกาะ |
วันที่อนุมัติ | 4 สิงหาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 4 สิงหาคม 2563 - 5 สิงหาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเกาะจัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 90 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 90 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสภาพการณ์ในปัจจุบัน ปัญหาการเกิดอุบัตเหตุเกี่ยวกับการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับ-ส่งไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถรับ-ส่งของโรงเรียน เกิดเหตุการณ์บ่อยครั้งมากขึ้น จากการลืมเด็กในรถ จนทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ นำไปสู่การเสียชีวิต ด้วยสาเหตุดังกล่าวศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านลาเกาะ เห็นว่าควรจัดโครงการให้ความรู้แก่เด็กปฐมวัยในสังกัด เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดจนมีความสูญเสียขึ้นอีก เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงต้องป้องกันก่อนจะเกิดเหตุ โดยสอนให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ระบบการทำงานของรถยนต์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อเอาตัวรอด ประกอบด้วย แนะนำเกี่ยวกับระบบเซ็นทรัลล็อกของรถยนต์แนะนำเกี่ยวกับระบบป้องกันการเปิดจากด้านใน การลดกระจกประตูรถ การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน การใช้แตรและแนะนำให้เด็กมาเปิดประตูจากฝั่งคนขับ จากนั้นก็ต้องทดลองให้เด็กลองปฏิบัติจริง นอกจากนั้นควรสร้างองค์ความรู้ให้แก่ครูผู้ดูแลเด็กในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างความใส่ใจเพราะถึงแม้จะสอนให้เด็กมีความรู้ไว้แก้ไขสถานการณ์คับขัน แต่ผู้ใหญ่ต้องมีสติตลอดเวลา ตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้รถเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครูและผู้ปกครอง หากถ้าพลาดพลั้งไปจะเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจหวนคืน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธี เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิธีการปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ร้อยละ 100 |
0.00 | |
2 | เพื่อให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถลงจากรถยนต์ได้ เด็กปฐมวัยเรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถลงจากรถยนต์ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 |
0.00 | |
3 | เพื่อให้ครูและผู้ปกครองเรียนรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น เพื่อจะได้สอนให้เด็กได้เรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอย่างสม่ำเสมอ และสร้างความตระหนักให้มีการตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถทุกครั้งก่อนลงจากรถ ครูได้เรียนรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น เพื่อจะได้สอนให้เด็กได้เรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอย่างสม่ำเสมอ และสร้างความตระหนักให้มีการตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถทุกครั้งก่อนลงจากรถร้อยละ 100 |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,800.00 | 0 | 0.00 | |
4 ส.ค. 63 | 1.จัดอบรมครู ผู้ปกครองและผู้ที่มีความเสี่ยง | 0 | 12,050.00 | - | ||
5 ส.ค. 63 | กิจกรรมอบรมเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 0 | 3,750.00 | - |
- เด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน เรียนรู้วิธีการปลดล็อคประตูรถเมื่อติดอยู่ในรถยนต์ได้
- เด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน เรียนรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อติดอยู่ในรถ หากไม่สามารถลงจากรถยนต์ได้
- ครู ผู้ปกครองได้เรียนรู้วิธีการทำงานของแตรรถยนต์ สัญญาณไฟฉุกเฉิน กระจกรถ และระบบล็อคประตูของรถแต่ละรุ่น เพื่อจะได้สอนให้เด็กได้เรียนรู้การเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถอย่างสม่ำเสมอ และสร้างความตระหนักให้มีการตรวจตราภายในรถยนต์ให้ละเอียดรอบคอบว่าไม่ลืมเด็กไว้ในรถทุกครั้งก่อนลงจากรถ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2563 00:00 น.