โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง และ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ประจำปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง และ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ประจำปี 2563 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารู |
วันที่อนุมัติ | 25 กุมภาพันธ์ 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 33,750.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางยูไวรีย๊ะ ยูนุ๊ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานเป็นโรคซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวเลขของผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานทั้งสิ้น 189 ล้านคน และคาดว่าในอีก 20 ปี ข้างหน้าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 324 ล้านคน ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการควบคุมระดับความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานได้ไม่ดี และส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันและควบคุมได้ อีกทั้งยังพบว่า อายุเฉลี่ยของการเริ่มต้นป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานนั้นน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยวิถีการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และความเครียดจากการทำงาน โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน นอกจากจะเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคคือ “พันธุกรรม” และ “สิ่งแวดล้อม” ในส่วนของพันธุกรรมนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ขณะที่สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์แม่ แม้พันธุกรรมจะเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ แต่ก็สามารถควบคุมปัจจัยเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวได้ มีผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การควบคุมอาหารอย่างดี รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงทางพันธุกรรม อีกทั้งยังเป็นการควบคุมโรค และป้องกันโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเพราะการควบคุมอาหารอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ให้สูงได้ ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารู สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดี ร้อยละ 63.91 และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดร้อยละ 27.20 ซึ่งถือว่ายังควบคุมระดับความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้นทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิบงบารูได้ตระหนักถึง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
|
0.00 | |
2 | 2. เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตได้ดี
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 33,750.00 | 1 | 33,750.00 | |
19 มิ.ย. 63 - 20 มิ.ย. 65 | กิจกรรมที่ 1 อบรมให้ความรู้ | 0 | 33,750.00 | ✔ | 33,750.00 |
- จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ประชาสัมพันธ์โครงการ และแจ้งกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่กลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยในการอบรมแบ่งกลุ่มเป้าหมาย เป็น 3 รุ่นๆ ละ 50 คน มีกิจกรรมดังนี้ 3.1 เจาะเลือดตรวจคัดกรองไต 3.2 อบรมเชิงปฏิบัติการแก่กลุ่มเป้าหมาย
- การบริโภคอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- การออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย และการสังเกตตนเองเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย
- การรับประทานยาในผู้ป่วย และการขาดยาจะส่งผลอย่างไร
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้ดี มากกว่าร้อยละ 50
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตและหรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้ดี มากกว่าร้อยละ 50
- อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2563 14:01 น.