กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ รวมพลัง อสม. ลดเสี่ยง ลดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
รหัสโครงการ 63-L8278-01-006
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลบันนังสตา
วันที่อนุมัติ 3 กันยายน 2563
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 กันยายน 2563 - 25 ธันวาคม 2563
กำหนดวันส่งรายงาน 5 มกราคม 2564
งบประมาณ 45,462.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวอามีเนาะ ประดู่
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด 6.25,101.233place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มวัยทำงาน 109 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน ทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร การเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อนที่สำคัญ อาทิ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคไตวายเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) แผลเรื้อรัง การถูกตัดขา ตัดนิ้ว เป็นต้น ความเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก จากสถิติการเจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงของหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พบว่าอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มักพบผู้ป่วยมากที่สุดในอันดับต้นของกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยในปี 2560-2562 มีอัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ดังนี้451.57,480.45 และ 480.84 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานรายใหม่ 188.15,206.96 และ 214.53 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับและข้อมูลจากการคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงในกลุ่มวัยทำงาน ของหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา (ระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จ.ยะลา ปี 2562) พบกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานจำนวน 530รายคิดเป็นร้อยละ 14.11 ต่อประชากรแสนคน และกลุ่มเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 1,224ราย ร้อยละ 38.59ต่อประชากรแสนคน  กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายการพัฒนาด้านสุขภาพเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตที่ดี เกิดความทั่วถึง เท่าเทียมของประชาชนทุกคน โดยให้ประชาชนได้รับรู้สถานะของตนเองและเข้าถึงการคัดกรองโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และได้กำหนดให้ดำเนินการพัฒนาสุขภาพตามกลุ่มวัยให้มีความครอบคลุมในมิติทางด้านสุขภาพทั้ง 4 มิติ คือมิติด้านการป้องกันโรคการส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ เน้นให้เกิดการสร้างสุขภาพมากกว่าการซ่อมสุขภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักด้านสุขภาพ จนเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความเคยชินให้เป็นพฤติกรรมที่ลดเสี่ยงต่อการเกิดโรค และลดโรคที่เป็นแล้วให้เป็นน้อยลง หรือหายเป็นปกติ โดยเฉพาะ 3อ คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ และ 2ส คือ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรา เป็นการ “ปรับก่อนป่วย” เพราะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง มีปัจจัยเสี่ยงร่วมกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตการส่งเสริมสุขภาพจึงเน้นให้ “ประชาชนสุขภาพดี เริ่มต้นที่สร้างนำซ่อม” โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ผู้เป็นพลังชุมชนที่สำคัญในการเป็นผู้นำ เป็นต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ (Change Agent) โดยมีบทบาทที่สำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะด้านสุขภาพให้แก่คนในชุมชน โดยมีเป้าหมายในการเป็น “คู่หูสุขภาพ (Buddy Healthy)” ร่วมรู้สถานะสุขภาพ ร่วมปรับพฤติกรรม ต้านภัยโรคเบาหวานแลความดันโลหิตสูง  อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ได้รับการพัฒนาจากหลักการและกลวิธีสาธารณสุขมูลฐาน ซึ่งประเทศไทยได้มีการนำมาใช้ร่วมกับการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งเป็นการพัฒนา โดยเน้นหลักการมีส่วนร่วม คือ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินการ และร่วมประเมินผลสำเร็จ และปัจจุบันพบว่า อสม.ได้รับการพัฒนาทั้งในด้านปริมาณ โดยมีจำนวนกว่า 1,040,000 คน และด้านสุขภาพ โดย อสม.จะได้รับการฝึกอบรมพัฒนาความรู้และทักษะด้านสุขภาพ สามารถเป็นนักสื่อสารสุขภาพ เป็นต้นแบบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และสามารถถ่ายทอดความรู้ทักษะด้านสุขภาพให้กับบุคคลอื่น ๆ ในชุมชนได้ อีกทั้งมีการบริหารจัดการองค์กรในรูปแบบของ ชมรม อสม. ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เขต ภาค และประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีของ อสม. ชมรม อสม.พื้นที่หน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลบันนังสตาจึงได้จัดทำโครงการ ร่วมพลังอสม. ลดเสี่ยง ลดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โดย อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกันดำเนินการตรวจสุขภาพ ดำเนินกิจกรรมลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อให้อสม.องค์กร อสม. และชุมชนพัฒนาเป็นองค์กรสร้างสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรคได้อย่างยั่งยืนประชาชนมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ อสม. เกิดความตระหนักด้านสุขภาวะโดยการตรวจสุขภาพ คัดกรอง เฝ้าระวังโรคและป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงของตนเองและชุมชน

อสม.ทุกคนได้รับการตรวจประเมินสุขภาพและจำแนกกลุ่มโดยใช้ปิงปองจราจร 7 สีร้อยละ 80

0.00
2 เพื่อให้เกิดการดำเนินการในการลดปัจจัยเสี่ยง ลดการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของ อสม. และชุมชน

อสม. มีความรู้ มีศักยภาพที่ดีในการดำเนินงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชุมชนอย่างมีคุณภาพร้อยละ 80

0.00
3 เพื่อให้ อสม. และองค์กร อสม. พัฒนาเป็นองค์กรสร้างสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรคอย่างยั่งยืน

มีองค์กรสร้างสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค ของชมรม อสม.

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
  1. ประชุมชี้แจงแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบเรื่องการดำเนินงานโครงการเพื่อร่วมให้ข้อมูล ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ และร่วมประเมินผลโครงการ
  2. จัดทำแผนปฏิบัติงาน/โครงการนำเสนอเพื่อขออนุมัติ
  3. สำรวจและแจ้งกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงานโครงการ
  4. ประเมินพฤติกรรมสุขภาพอสม.เบื้องต้น โดยใช้แบบสอบถามด้วยวาจาเพื่อคัดกรองและสอบถามเบื้องต้น
  5. ตรวจประเมินสุขภาพอสม.เพื่อเป็นตัวอย่างด้านสุขภาพ
  6. จัดกิจกรรมอบรมฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพอสม.จำนวน 109 คนเรื่องการดำเนินงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อใช้ในการทำงาน การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพของกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยในชุมชน
  7. ติดตาม ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
  8. สรุปผลการดำเนินงานและรายงานผล
stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. อสม.ทุกคนได้รับการตรวจประเมินสุขภาพเพื่อเป็นตัวอย่างด้านสุขภาพ
  2. อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)ตำบลบันนังสตา มีความรู้ มีศักยภาพและเจตคติที่ดีในการดำเนินงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างมีคุณภาพ เพื่อใช้ในการทำงาน การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพของกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยในชุมชน
  3. มีองค์กรสร้างสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค ของชมรม อสม.
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ