สตรียุคใหม่ ร่วมใจต้านภัยมะเร็ง (01-13)
ชื่อโครงการ | สตรียุคใหม่ ร่วมใจต้านภัยมะเร็ง (01-13) |
รหัสโครงการ | 64-l4123-01-13 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านทรายแก้ว |
วันที่อนุมัติ | 17 พฤศจิกายน 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ธันวาคม 2564 |
งบประมาณ | 43,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายฮารีส หะยีดอรอนิง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ)
ปัจจุบันโรคมะเร็ง เป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมีความรุนแรงขึ้นทุกปี หากพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก โดยเฉพาะในรายที่ป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย หากมีการตรวจพบเร็วในระยะเริ่มต้น ก็มีโอกาสที่จะรักษาหายขาดได้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพตนเองให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้ โดยเฉพาะในกลุ่มสตรีพบว่าในปัจจุบันมีผู้หญิงที่ป่วยและเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด และมะเร็งเต้านมก็พบว่าอยู่ในลำดับรองลงมา
การควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก ต้องมีการค้นหา โดยการตรวจหาเซลล์มะเร็งให้พบตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มแรก และในระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในระยะลุกลาม และจากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก ได้พบว่าการคัดกรองด้วยการทำ pap smear ในสตรีกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ทำให้ช่วยลดอัตราการเกิดโรคและอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ สำหรับโรคมะเร็งเต้านมในสตรีไทย พบว่าสตรีทุก 16 คน มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้ 1 คนแม้ว่ามะเร็งเต้านม ทำให้เกิดความสูญเสียและเป็นสาเหตุการตายในอัตราที่สูง แต่ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาได้ และการพยากรณ์โรคค่อนข้างดี ถ้าสามารถตรวจพบและให้การรักษาในระยะเริ่มแรก ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ของมะเร็งเต้านม สามารถตรวจพบได้โดยการตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน เพื่อค้นหาความผิดปกติของเต้านม ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการแนะนำให้ปฏิบัติมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก สามารถปฏิบัติได้ง่ายด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษใดๆช่วยในการตรวจ ประหยัดเวลา ไม่เสียค่าใช้จ่าย จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มารับการรักษาเมื่อระยะของโรคลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองแล้ว ทั้งนี้เนื่องมาจากสตรีเหล่านี้ไม่เคยตรวจเต้านมด้วยตนเอง รวมทั้งการขาดความรู้ ความเชื่อมั่น ในการตรวจเต้านม
จากการตรวจคัดกรองในปีงบประมาณ 2563 ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทรายแก้ว พบว่าสตรีอายุ 30- 60 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก จำนวน 180 คน คิดเป็นร้อยละ 24 จากประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 750 คน ไม่พบความผิดปกติ และคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีอายุ 30- 70 ปี จำนวน 620 คน คิดเป็นร้อยละ 73.63 จากประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 842 คน ไม่พบความผิดปกติ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น พบว่าประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทรายแก้ว ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรค จึงได้จัดทำโครงการ “สตรียุคใหม่ ร่วมใจต้านภัยมะเร็ง” เพื่อให้ประชาชน เจ้าหน้าที่และภาคีเครือข่ายสุขภาพหันมาให้ความสำคัญและสร้างความตระหนัก สร้างองค์ความรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายในการที่จะปรับพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม โดยส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้สามารถค้นพบมะเร็งได้ตั้งแต่เริ่มต้น หากพบความผิดปกติ จะได้รับการส่งต่อและรับการรักษาได้ทันที ซึ่งสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมลงได้
เป้าหมายหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 30 – 60 ปี ในเขตรับผิดชอบ จำนวน 150 คน
พื้นที่ดำเนินการพื้นที่รับผิดชอบ 3 หมู่บ้าน ม.3, ม.4 และ ม.10 ต.ตลิ่งชัน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1.เพื่อเป็นการสร้างกระแสและให้ความสำคัญในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 100 ของหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 30-60 ปี ให้ความสำคัญในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก |
100.00 | 100.00 |
2 | ข้อที่ 2.เพื่อพัฒนาการให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกตามมาตรฐานอย่างครอบคลุม ร้อยละ 80 ของหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 30-60 ปี ได้รับการตรวจ คัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก |
100.00 | 80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 300 | 43,500.00 | 0 | 0.00 | |
1 ม.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการป้องกัน การปฏิบัติและทักษะการดูแลตนเองห่างไกลโรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งปากมดลูก (อบรม 2 รุ่น) | 150 | 21,000.00 | - | ||
1 ม.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 30- 60 ปี | 150 | 22,500.00 | - |
วิธีดำเนินการ (ออกแบบให้ละเอียด)
1. ขั้นเตรียมการ
- ประชุมชี้แจงแนวทางและร่วมวางแผนการดำเนินงาน
- จัดอบรมให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ให้กับแกนนำสุขภาพและสตรีกลุ่มเป้าหมาย
- รณรงค์สร้างกระแสและประชาสัมพันธ์ให้สตรีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
2. ขั้นตอนการดำเนินงาน
- ดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ณ จุดนัดหมาย
- ส่งต่อผู้ป่วยในรายที่ผลตรวจผิดปกติพบแพทย์เพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที
- จัดทำทะเบียนผู้มารับการตรวจคัดกรอง
3. สรุปผลการดำเนินงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. จำนวนสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ได้รับการบริการตรวจโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ตามเกณฑ์มาตรฐาน
2. สตรีอายุ 30 ปีขึ้นไปสามารถตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง
3. จำนวนผู้ป่วยที่ค้นพบเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ได้รับการรักษาพยาบาลในระยะขั้นแรก ของการเป็นโรคมะเร็ง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 12:00 น.