โครงการคัดกรองตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ปีงบประมาณ 2564
ชื่อโครงการ | โครงการคัดกรองตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ปีงบประมาณ 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L5211-1-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร |
วันที่อนุมัติ | 28 ธันวาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2564 |
งบประมาณ | 14,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุดารัตน์ ศรีเพ็ชร |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.075,100.45place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ม.ค. 2564 | 30 ก.ย. 2564 | 14,800.00 | |||
รวมงบประมาณ | 14,800.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอับดับ ๑ และ ๒ ของโรคมะเร็งทั้งหมดของสตรีไทย จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี ๒๕๖๓ พบว่าโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นสัดส่วนร้อยละ ๓๕.๗ ของมะเร็งทุกชนิดในสตรี โรคมะเร็งที่พบรองลงมา ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม,โรคมะเร็งช่องปาก,โรคมะเร็งปอด และโรคมะเร็งรังไข่ ฯลฯ ปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และทางด้านเศรษฐกิจ เป็นอย่างมาก แต่จะสามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ถ้าพบผู้ป่วยโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรก ดังนั้นถ้าสามารถกระตุ้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้มีความรู้และเข้าใจ เกี่ยวกับโรคดังกล่าว พร้อมทั้งตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการตรวจค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกก็จะทำให้อัตราการเกิดโรค อัตราการป่วยและอัตราการตาย จากโรคมะเร็งฯ ลดลงกระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้บรรจุแผนงาน/โครงการ เกี่ยวกับโรคดังกล่าว ขึ้นโดยกำหนดตัวชี้วัดคือสตรีที่มีอายุระหว่าง ๓๐-๖๐ ปี ได้รับการตรวจ PAP smear ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ (ผลงาน ๑ ต.ค.๒๕๖๒ ถึง ๓๐ ก.ย.๒๕๖๓) และสตรีที่มีอายุระหว่าง ๓๐-๗๐ ปี ต้องได้รับการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองจากเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครสาธารณสุข ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ (ผลงาน ๑ ต.ค.๒๕๖๒ ถึง ๓๐ ก.ย.๒๕๖๓) ซึ่งจากผลการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา มีจำนวนผู้มารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ ๑๖.๗๖และมีผลการตรวจปกติทุกราย (จากฐานข้อมูล HDC สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓) สตรีที่มีอายุระหว่าง ๓๐-๗๐ ปี ได้รับการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองจากเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครสาธารณสุข ร้อยละ ๙๓.๐๓ ตรวจพบก้อนเนื้อจำนวน ๒ ราย (จากฐานข้อมูล HDC สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓) จากผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ตามเป้าหมายที่กำหนดและประกอบกับได้พบเห็นผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมได้รับความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมอยู่อย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถค้นหาโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น,สามารถให้การช่วยเหลือ ดูแล รักษาได้ ผู้ป่วยก็จะไม่ต้องทุกข์ทรมานมากและก็จะสามารถมีอายุที่ยืนยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากประสบการณ์การทำงานในชุมชนและจากการวิเคราะห์ตามสถานการณ์พบว่า งานการเฝ้าระวังการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านมเป็นปัญหาสาธารณสุขที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กลุ่มเป้าหมายหญิงวัยเจริญพันธุ์ไม่ค่อยมารับบริการ ทั้งนี้เพราะสตรีเป็นเพศที่มีความละอาย มีความอดทนและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตรีที่อยู่ในชนบทจะมีความอดทนสูง ความละอายความไม่กล้าและความอดทนที่มีอยู่นี้ก็อาจจะเป็นทั้งคุณและโทษในคราวเดียวกันได้ เช่นเมื่อมีความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องของอวัยวะเพศแล้วไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกใคร ถึงเจ็บปวดก็มีความอดทน สิ่งนี้หากเขาเป็นโรคร้ายก็อาจสายเกินแก้ที่ไม่สามารถช่วยได้ในภายหลังงานการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมจึงเป็นงานยากต่อการปฏิบัติ เป็นปัญหาสุขภาพในพื้นที่ทีม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร,อาสาสมัครสาธารณสุขและแกนนำองค์กรชุมชน มีความตระหนัก และเห็นความสำคัญของปัญหา ดังกล่าวจึงเกิดแนวความคิดในการทำงานร่วมกัน นำรูปแบบการทำงานเชิงรุกมาใช้โดยการใช้ศักยภาพของชุมชนที่มีอยู่อย่างเต็มที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ผสมผสานกับวิทยาการทางการแพทย์สอดแทรกเสริมให้กับกลุ่มพลังมวลชน การที่คนได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพให้สมกับความเป็นมนุษยชาติสามารถช่วยเหลือดูแลตนเอง ช่วยเหลือดูแลบุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่นในชุมชนให้พ้นจากพิษภัยของโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านม สร้างคนให้เป็นคนดีมีคุณภาพต่อสังคมส่งผลให้ประชาชนในชาติมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอายุยืนยาวสามารถอยู่ในสังคมได้ด้วยความปกติสุขไม่เป็นภาระของประเทศชาติ นับเป็นคุณอนันต์ที่จะก่อให้เกิดกุศลกรรม(คือผลแห่งการกระทำความดี) ของประชาชนในชาติได้เป็นอย่างดียิ่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหารร่วมกับแกนนำชุมชน จึงได้คิดจัดทำการพัฒนานวัตกรรมทำโครงการคัดกรองตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้สตรีกลุ่มเป้าหมายมีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกและการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้สตรีที่มีอายุระหว่าง 30-60 ปี ได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกและสตรีที่มีอายุ 30-70 ปีตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 100 | 14,800.00 | 0 | 0.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้ | 100 | 14,800.00 | - |
ขั้นเตรียมการ
1. เตรียมแกนนำชุมชนต้านภัยมะเร็งปากมดลูกสำหรับการประชุม วางแผน ดำเนินการ ติดตาม สนับสนุน
2. เตรียมจัดทำเอกสารแบบฟอร์มการตรวจเต้านมด้วยตนเองตลอดปี และการตรวจมะเร็งปากมดลูกสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
3. เตรียมวัสดุอุปกรณ์สื่อต่างๆที่จำเป็น เช่น Model เต้านมสำหรับการสาธิตการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง แผ่นซีดี ชุดเครื่องมือตรวจมะเร็งปากมดลูกปราศจากเชื้อจากโรงพยาบาลบางกล่ำ
4. เตรียมการประชาสัมพันธ์โดยการเตรียมแผ่นป้าย ไวนิล ใบปลิว
5. เตรียมการประสานงานไปยังบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น ทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพใกล้เคียง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข แกนนำชุมชน อาสาสมัคร เทศบาล ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือ
ขั้นดำเนินการ
1. กลุ่มแกนนำแบ่งพื้นที่รับผิดชอบกลุ่มเป้าหมายกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธ์อายุ ๓๐-๗๐ ปี ในแต่ละละแวกหมู่บ้าน
2. ทำการสำรวจรายชื่อประชากรกลุ่มเป้าหมายกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธ์อายุ ๓๐-๗๐ ปี
3. ทำการประชาสัมพันธ์โดยการติดแผ่นป้าย ไวนิล จุดสำคัญ ๆ ในชุมชนและในสถานบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร และการประกาศผ่านหอกระจายข่าวในหมู่บ้านโดยผู้นำชุมชน เทศบาลตำบลบ้านหาร
4. จัดอบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
5. แจ้งกำหนดการและนัดหมายการตรวจมะเร็งปากมดลูกและการตรวจมะเร็งเต้านม
6. เก็บข้อมูลแบบบันทึกการตรวจเต้านมด้วยตนเองโดยอาสาสมัครสาธารณสุข
7. ดำเนินการตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นช่วงๆ ต่อเนื่อง โดยขออุปกรณ์การตรวจสำรองไว้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหาร จำนวน ๕ ชุด
8. บันทึกผลการตรวจของกลุ่มเป้าหมายส่งไปยังหน่วยงาน พร้อมทั้งรายงานผลไปยังสถาบันมะเร็ง
- ประชาชนเกิดการตื่นตัวในการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
- ประชาชนเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
- ประชาชนมีความต่อเนื่องในการตรวจ ติดตาม และปฏิบัติกันจนเป็นวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
- ประชาชนในพื้นที่ไม่พบการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564 15:36 น.