โครงการฟื้นฟูมารดาหลังคลอดเชิงรุกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
ชื่อโครงการ | โครงการฟื้นฟูมารดาหลังคลอดเชิงรุกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย |
รหัสโครงการ | 64-L5229-1-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนิคม |
วันที่อนุมัติ | 27 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 22 กุมภาพันธ์ 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2564 |
งบประมาณ | 23,100.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวรุสณีย์ หลงตรี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.087,100.287place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID) ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ทำให้เกิดการตื่นตระหนกของประชาชนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งพบการระบาดไปในหลายพื้นที่ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งสถานการณ์ในประเทศไทย ข้อมูลเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 พบผู้ป่วยสะสม จำนวน 2,518 ราย เสียชีวิต35 ราย หากกลับบ้านได้รวม 1,135 ราย ทั้งนี้การเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อข้างต้น จำเป็นต้องมีการดำเนินการให้ความรู้คำแนะนำ การดูแลเฝ้าระวังป้องกันตนเองให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ ได้แก่ หน่วยการบริการ สถานบริการ หน่วยงานสาธารณสุข สถานประกอบการ ฯลฯ ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร รับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับการติดตาม เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงด้านสาธารณสุข ตามมาตรการแก้ไขสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมอนามัยและกระทรวงมหาดไทยให้ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง
เทศบาลเมืองกำแพงเพชรจึงได้จัดทำโครงการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ในชุมชน ปี 2564 เพื่อควบคุมเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งรับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ให้ทันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ตามนโยบายของรัฐบาลให้มีการเว้นระยะห่างจากสังคม งดจัดกิจกรรมทางสังคมและได้มอบหมายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของชุมชนโดยออกไปเคาะประตูบ้าน ให้สุขศึกษาเฝ้าระวังและคัดกรองอาการเบื้องต้นของโรคและให้คำแนะนำแก่ประชาชนตรวจค้นหาและเฝ้าระวังคนในพื้นที่ชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID1-19) จากการทำงานที่ผ่านมายังพบว่า กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านยังมีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวที่ไม่เพียงพอ เช่น ปรอทวัดไข้ไม่เพียงพอทำให้การดำเนินการล่าช้าในบางครั้งก็ไม่ทันต่อเหตุการณ์ หน้ากากป้องกันสารคัดหลั่งไม่เพียงพอต้องยืมกันใช้ ถุงมือยางไม่เพียงพอ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ไม่เพียงพอ เสื้อกันฝนป้องกันสารคัดหลั่งไม่เพียงพอ ต้องซักตากบางคร้ังแห้งไม่ทันต่อการใช้งาน จากสภาพปัญหาความขาดแคลนอุปกรณ์ดังกล่าวข้างต้น
พิธีกรรม มีการเรียนการสอน และการถ่ายทอดความรู้ อย่างกว้างขวางสืบทอดมายาวนานหลายปี (สถาบันการแพทย์แผนไทย, 2551) การดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอด เป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นในทุกภูมิภาคของประเทศ ในภาคใต้ พบว่า โต๊ะบีแด (หมอตำแย) มีบทบาทสำคัญในการเตรียมตัวให้แม่คลอดง่าย มีการดูแลหลังคลอดด้วยการอยู่ไฟโดยใช้ก้อนเส้า (กำราบ พานทองอ้างใน เสาวณีย์ กุลสมบูรณ์, 2550) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มารดาส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามความเชื่อเรื่องการใช้ความร้อนหลังคลอด (KaewsarnP, Moyle W, Creedy D., 2003) ส่วนสตรีในภาคเหนือเชื่อว่าการไม่ทำตามข้อห้ามในการปฏิบัติหลังคลอดจะส่งผลต่อสุขภาพไปตลอดชีวิต สตรีในชนบทปฏิบัติตามความเชื่อมากกว่าในเขตเมือง (PraneeLiamputtong,2004) ภาคกลางพบว่ามีการดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอดโดยความช่วยเหลือของญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวและหมอพื้นบ้าน โดยเรียกรวมว่า การอยู่ไฟโดยใช้สมุนไพรหลายชนิด มีการงดอาหารแสลง และบริโภคอาหารบำรุงน้ำนม บำรุงโลหิต มีการประกอบพิธีกรรมตามวัฒนธรรมในบางท้องถิ่น (ลัฐิกาจันทร์จิต, 2540) เป็นต้น จากสถิติการตั้งครรภ์ในปี 2563 ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนิคม พบว่า มีมารดาหลังคลอดในเขตรับผิดชอบ จำนวน 65 ราย ได้รับการเยี่ยมครบ 3 ครั้ง จำนวน 64 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.46 (งานอนามัยแม่และเด็ก) จำนวนหญิงหลังคลอดที่ได้รับการบริบาลหลังคลอดด้วยการแพทย์แผนไทย จำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.75 เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการฟื้นฟูมารดาหลังคลอดเชิงรุกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ตามแนวทางเวชปฏิบัติ ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนิคม ทั้งการให้บริการในสถานบริการและออกเยี่ยมบ้าน โดยให้บริการดังนี้ การใช้ยาสมุนไพร การทับหม้อเกลือ การประคบสมุนไพร การอบสมุนไพร การนวดหลังคลอด การนวดเต้านมในกรณีน้ำนมไม่ไหลและเต้านมคัดตึง ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอากรบำรุงสุขภาพ อาหารแสลง อาหารบำรุงน้ำนม น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ และดูแลความงามผิวพรรณด้วยสมุนไพรของมารดาหลังคลอดเพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ บำบัดโรคที่ดีอีกวิธีหนึ่ง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 90 | 23,100.00 | 0 | 0.00 | 23,100.00 | |
1 มี.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | 1. กิจกรรมอบรมหญิงมีครรภ์ เรื่องการดูแลตนเองหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย | 35 | 3,275.00 | - | - | ||
1 มี.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | 2. กิจกรรมอบรม อสม. เรื่องการดูแลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย | 55 | 4,625.00 | - | - | ||
1 มี.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | 3. กิจกรรมฟื้นฟูมารดาหลังคลอดเชิงรุกด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย | 0 | 15,200.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 90 | 23,100.00 | 0 | 0.00 | 23,100.00 |
- เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลตนเองหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
- เพื่อให้มารดาหลังคลอดที่ได้รับการฟื้นฟูหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
- อาสาสมัครสาธารณสุขมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยอย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 09:57 น.