กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการเฝ้าระวังผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงในตำบลปันแต
รหัสโครงการ 64-L3321-1-12
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต
วันที่อนุมัติ 24 กุมภาพันธ์ 2564
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 พฤษภาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2564
งบประมาณ 15,780.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ พื้นที่หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 1 พ.ค. 2564 31 ส.ค. 2564 15,780.00
รวมงบประมาณ 15,780.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 553 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 จำนวนผู้บริโภคที่มีสารเคมีทางการเกษตรตกค้างในกระแสเลือดระดับอันตราย
49.17
2 จำนวนของเกษตรกรที่มีสารเคมีทางการเกษตรตกค้างในกระแสเลือดระดับอันตราย(คน)
33.34

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ตำบลปันแต เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมโดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งประกอบไปด้วย การทำนาปี ทำสวนยางพารา พืชล้มลุกทางการเกษตรอีกหลายชนิด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืชจึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรง และสูง ในปีงบประมาณ 2563 ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต ได้มีการเจาะเลือดเกษตรกลุ่มเสี่ยง เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 1.75 ปลอดภัย ร้อยละ 15.79 เสี่ยง ร้อยละ 49.12 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 33.34 กรณีพบว่า เสี่ยงและไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปลอดภัย ร้อยละ 29.62 เสี่ยง ร้อยละ 44.45 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 25.93 นอกจากเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีการศึกษาอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างกว้างขวาง และพบว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้สามารถถูกสะสมในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ การดูดซึมทางผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และการรับประทาน จึงได้มีเฝ้าระวังในกลุ่มผู้บริโภค โดยการเจาะสารเคมีในเลือดให้กลุ่มดังกล่าว โดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๑ พบว่า ปกติ ร้อยละ 2.01 ปลอดภัย ร้อยละ 10.70 เสี่ยง ร้อยละ 41.14 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 46.15 กรณีพบว่า เสี่ยงและไม่ปลอดภัยในครั้งที่ ๑ เจาะเลือดเกษตรกรโดยใช้กระดาษ Reactive paper ครั้งที่ ๒ พบว่า ปกติ ร้อยละ ๐ ปลอดภัย ร้อยละ 29.63 เสี่ยง ร้อยละ 44.44 และไม่ปลอดภัย ร้อยละ 25.93 กลุ่มเสี่ยงที่มาเจาะเลือดครั้งที่ ๒ มีผลเลือดเท่าเดิม ร้อยละ 44.44 ดีขึ้น ร้อยละ 44.44 แย่ลง ร้อยละ 11.12 จะเห็นได้ว่า ผู้สัมผัสสารเคมีกำจัดแมลงนั้นมีสารเคมีในเลือดอยู่ในกลุ่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลข้างต้นสถานการณ์สารเคมีตกค้างในเลือดทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคแสดงถึงความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผลผลิตทางการเกษตร

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 1. เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป
  1. จำนวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการตรวจหาปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสโลหิต
1.00
2 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ร้อยละ 80 ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
วันที่ชื่อกิจกรรมกลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)

วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : 1. เพื่อเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจากสารเคมี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป

รวม 0 0.00 0 0.00

วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่มีระดับสารเคมีในเลือดระดับไม่ปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

รวม 0 0.00 0 0.00

ไม่ระบุวัตถุประสงค์

1 พ.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 กิจกรรมตรวจสารเคมีตกค้างในปะชาชน อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป 553.00 14,580.00 -
1 พ.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 553.00 1,200.00 -

หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้

  1. เตรียมข้อมูลสถานะสุขภาพ กลุ่มเป้าหมายในการคัดกรอง ประชาชนกลุ่มเสี่ยง อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป 2 สำรวจความต้องการคัดกรองของกลุ่มเป้าหมาย 3 ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายทราบ พร้อมนัด วัน ตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเสี่ยง 4 เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ในการตรวจคัดกรองการตรวจเลือด โดยใช้กระดาษทดสอบเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรส 5 ดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มเสี่ยง 6 จำแนกประชาชนที่ผลการตรวจพบระดับสารเคมีในเลือด ออกเป็น ๔ ระดับประกอบด้วยระดับไม่ปลอดภัย ระดับเสี่ยง ระดับปลอดภัย ระดับปกติ
    7 แจ้งผลการตรวจหาสารเคมีในเลือด ให้คำแนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารเคมี  ของเกษตรกร การเลือกบริโภคผักปลอดสารพิษ การล้างผักและผลไม้สดอย่างถูกวิธี 8 ประชาชนที่ผลการตรวจพบระดับสารเคมีในเลือด ระดับไม่ปลอดภัยและเสี่ยง แนะนำเข้าสู่กระบวนการขับสารพิษ ๒ วิธีคือ การอบสมุนไพร และการรับประทานชาชงรางจืด
    9 ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน
stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีระดับสารเคมีตกค้างในเกณฑ์ปกติและปลอดภัย 2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 10:46 น.