โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย รพสต.บ้านสามแยก ต.กายูคละ อ.แว้ง ปีงบประมาณ 2565
ชื่อโครงการ | โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย รพสต.บ้านสามแยก ต.กายูคละ อ.แว้ง ปีงบประมาณ 2565 |
รหัสโครงการ | 65-L2518-1-17 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านสามแยก |
วันที่อนุมัติ | 10 กุมภาพันธ์ 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2564 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2565 |
งบประมาณ | 21,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางโซเฟีย ยามี |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายสวรรค์ สาและ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | จำนวนของเกษตรกรที่มีสารเคมีทางการเกษตรตกค้างในกระแสเลือดระดับอันตราย(คน) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสามแยก ปีงบประมาณ 2563เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเกษตรกร ทั้งหมด 50 ราย พบสารเคมีในร่างกายจำนวน 13 ราย พบร้อยละ 26 ซึ่งยังเป็นปัญหาที่ต้องมีการแก้ไข จึงเห็นสมควรให้มีการอบรมและติดตามคัดกรองสารเคมีในเกษตรต่อไป |
26.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันสารเคมีป้องกันแดละกำจัดศัตรูพืช (Pesticides) เข้ามามีบทบาท และใช้ในด้านการเกษตรอย่างกว้างขวางและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์อย่างชัดเจนคือ ข้อมูลปริมาณการนำเข้าสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูลของกรมวิชากาเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าระหว่างปี พ.ศ. 2540-2553 มีการนำเข้าสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชมากถึง 120,000 ตัน โดยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีการใช้มากที่สุด ได้แก่ สารกำจัดศัตรูวัชพืช ร้อยละ 74 สารกำจัดแมลง ร้อยละ 14 สารป้องกันและกำจัดโรคพืช ร้อยละ 9 และอื่นๆ ร้อยละ 3 แนวโน้มการน้ำสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชมาใช้ยังคงมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสารเคมีดังกล่าวจะมีหลักฐานและข้อมูลทางวิชาการแสดงถึงความเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และทุกคนมีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับและสัมผัสได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ใช้สารเคมีโดยตรง หรือกลุ่มผู้บริโภคพืชผักที่มีสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตกค้างในพืชผักจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาและการควบคุมการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค เป็นบทบาทที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการลดปริมาณการใช้ และการเฝ้าระวังการได้รับพิษจากสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เป็นสิ่งสำคัญที่ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำข้อมูลไปให้ความรู้แก่กลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ส่วนใหญ่มีผลต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งจากข้อมูลปริมาณการนำเข้าและการตรวจพบสารตกค้างในพืชผักดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่จะสะท้อนให้เห็นถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้รับสัมผัสสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่มีแนวโน้มความเสี่ยงรุนแรงมากขึ้น ในแต่ละปีมีการรายงานผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการได้รับพิษจากสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจ (intentional injuries) และไม่ตั้งใจ (unintentional injuries) อย่างต่อเนื่องทุกๆปี ดังนั้น หน่วยงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสามแยก ตำบลกายูคละ ได้ดำเนินงานคลินิกสุขภาพเกษตรกรมาเนื่องจากเห็นถึงความเสี่ยงที่เกษตรกรและผู้บริโภคจะได้รับและส่งผลต่อสุขภาพ ในปีนี้จึงได้จัดทำโครงการขึ้น เพื่อเฝ้าระวังและให้กลุ่มเกษตรกรรวมถึงผู้บริโภคได้รับทราบความเสี่ยงของตนเอง รวมไปถึงมีความรู้ในการป้องกันตนเอง เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพของตนเองร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขได้ และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข สามารถเป็นแกนนำในการถ่ายทอดความรู้และเฝ้าระวังได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เกษตรกรและผู้บริโภคมีความรู้ในการป้องกันตนเองจากสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร ร้อยละ 80 ของเกษตรกรและผู้บริโภคที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากสารเคมีที่ใช้ |
120.00 | 1.00 |
2 | เพื่อให้เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่มีความรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร ร้อยละ 80 ของอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่ ผ่านการอบรมให้ความรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร |
120.00 | 1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 21,400.00 | 0 | 0.00 | |
1 มี.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | อบรมให้ความรู้เกษตรกรและอาสาสมัครสาธารณสุข เรื่องความปลอดภัยในการใช้สารเคมีทางการเกษตร เพื่อการดูแลสุขภาพและการจัดการปัญหาของเกษตรกร | 0 | 21,400.00 | - |
- ทราบถึงสถานการณ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง
- เพื่อจะได้นำข้อมูลมาใช้ในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การเฝ้าระวังและควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพของเกษตรกร
- เกษตรกรมีความรู้ในการปลูกพืชปลอดสารพิษ และวิธีการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 00:00 น.