โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยทำงาน ลดเสี่่ยงโรคเรื้อรังตำบลสะกอม ปีงบประมาณ 2564
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัยทำงาน ลดเสี่่ยงโรคเรื้อรังตำบลสะกอม ปีงบประมาณ 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L5194-01-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะกอม อำเภอเทพา |
วันที่อนุมัติ | 27 พฤษภาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 17,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอาอีฉะห์ หนิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 มิ.ย. 2564 | 30 ก.ย. 2564 | 17,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 17,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 140 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 80 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 13.58 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 5.17 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงหัวใจหลอดเลือดสมอง มะเร็ง ฯลฯ เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน ทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร การเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อนที่สำคัญ อาทิ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคไตวายเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือดม (CVD) แผลเรื้อรัง การถูกตัดขา ตัดนิ้ว เป็นต้น ความเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่านอกจากการบริการทางคลินิกแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพมีความสำคัญและจำเป็นในการแก้ไขปัญหาโรคติดต่อดังกล่าวซึ่งการบริการสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่จำเป็น รวมทั้งการบริการสุขภาพเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ถือเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น กรรมพันธุ์ อายุ และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้เช่น ความอ้วน ความเครียด การออกกำลังกาย พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การดื่มสุรา สูบบุหรี่ ซึ่งหากประชาชนไม่สามารถควบคุมปัจจัยดังกล่าว ร่วมกับการมีอายุที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไปย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และต้องได้รับการรักษารับประทานยาตลอดชีวิต อีกทั้งหากมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากการคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงในกลุ่มวัยทำงาน ระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตำบลสะกอม ปี 2563 พบว่า เสี่ยงต่อโรคเบาหวานจำนวน 216 คน ร้อยละ 13.58เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 176คนร้อยละ 5.17ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 478 คน ป่วยโรคเบาหวานจำนวน 215 คน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะกอม เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มวัยทำงานจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริม กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ตระหนัก รับรู้ถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เป็นบุคคลที่มีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่1 เพื่อลดอัตราการเกิดผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ 1.อัตราผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ลดลง ร้อยละ 5 2.อัตราผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ลดลง ร้อยละ 5 |
13.58 | 0.00 |
2 | ข้อที่2. เพื่อให้ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังเบาหวานและความดันโลหิตสูงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 1.ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร้อยละ 50 2.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง/ปัจจัยเสี่ยงโรคเรื้อรังมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพและสามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ |
0.00 | |
3 | ข้อที่3.เพื่อลดและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มป่วย 1.ร้อยละของผู้ป่วย CKD ที่มีอัตราการลดลงของeGFR<4ml/min/1.73m2/yr มากกว่าหรือเท่ากับ ร้อยละ 66 |
0.00 | |
4 | ข้อที่4.เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงทุกรายที่ผ่านการตรวจค่าน้ำตาลในเลือดแบบอดอาหาร(FBS)และมีค่าน้ำตาล100-125mg%ได้รับการตรวจความทนทานต่อกลูโคส(75gm OGTT) 1.ร้อยละของกลุ่มเสี่ยงเบาหวานผ่านการตรวจค่าน้ำตาลในเลือดแบบอดอาหาร(FBS)และมีค่าน้ำตาล100-125mg%ได้รับการตรวจความทนทานต่อกลูโคส(75gm OGTT)ร้อยละ 60 |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 17,000.00 | 0 | 0.00 | |
1 มิ.ย. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่1 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง | 0 | 7,600.00 | - | ||
1 มิ.ย. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ ๒ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง | 0 | 4,700.00 | - | ||
1 มิ.ย. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ ๓ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคไต ระยะที่ ๑-๓ | 0 | 4,700.00 | - |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑.๑ เพื่อลดอัตราการเกิดผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่
๑.๒ เพื่อให้ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังเบาหวานและความดันโลหิตสูงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
๑.๓ เพื่อลดและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มป่วย
๑.๔ เพื่อให้ประชากรกลุ่มเป้าหมาย 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองตามมาตรฐานและมีคุณภาพ
1.๕ ผู้ป่วยได้รับการเข้าถึงบริการตรวจรักษาตามเกณฑ์มาตรฐาน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 10:32 น.