โครงการภาคีเข็มแข็งชุมชนร่วมใจ ห่างไกลโรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ ปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการภาคีเข็มแข็งชุมชนร่วมใจ ห่างไกลโรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ ปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L8300-2-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลแว้ง |
วันที่อนุมัติ | 15 กุมภาพันธ์ 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 8 สิงหาคม 2560 - 31 ธันวาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 49,350.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลแว้ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.936,101.835place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ทั่วโลกส่งผลต่อการพัฒนาการและวิวัฒนาการของโรคต่างๆขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะโรคติดต่อ / โรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นหรือโรคที่กลับมาเป็นใหม่ขึ้น ซึ่งโรคติดต่อเหล่านี้จะแพร่กระจายและระบาดทุกพื้นที่โดยใช้เวลาที่รวดเร็ว
จากสถานการณ์การเกิดโรคติดต่อในพื้นที่ตำบลแว้งในปีงบประมาณ 2559 สรุป 10 อันดับโรคดังนี้
ลำดับที่ ชื่อ-โรค จำนวนป่วย อัตราป่วยต่อแสน
ประชากร
1. อุจจาระร่วง 349 2,503.59
2. ปอดบวม 32 229.56
3. ไข้หรือไข้ไม่ทราบสาเหตุ 26 186.51
4. สุกใส 22 157.58
5. โรคตาแดง 18 129.12
6. หัด 10 71.74
7. โรคมือเท้าปาก 9 64.56
8. DHF รวมทุกประเภท 750.22
9. ทัยฟอยด์ 214.35
10. โรค LEPTOSPIROSIS 214.35
จากอัตราป่วย 10 อันดับโรคของตำบลแว้งปี 2559 พบว่า ผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงพบอัตราป่วยสูงที่สุด และยังคงเป็นโรคที่มีอัตราป่วยสูงสุดทุกปี ฉะนั้นในการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน ถูกหลักทางระบาดวิทยาของโรคติดต่อ และประชาชนในพื้นที่ต้องให้ความสำคัญและมีความตระหนักในการควบคุมและป้องกันโรคดังกล่าวขึ้น โดยสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์อำเภอแว้งในเรื่องของงานควบคุมโรค โรงพยาบาลแว้งร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลแว้ง จึงได้จัดทำโครงการภาคีเข้มแข็งชุมชนร่วมใจ ห่างไกลโรคติดต่อ/ โรคอุบัติใหม่ ปี2560
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดของโรคติดต่อในพื้นที่
|
||
2 | ข้อที่ 2เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยด้วยโรคติดต่อที่ป้องกันได้
|
||
3 | ข้อที่ 3เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
- จัดทำโครงการฯ
- ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและประสานกับหน่วยงานชุมชนทุกระดับที่เกี่ยวข้อง
- จัดเตรียมพื้นที่วัสดุ อุปกรณ์ ในการดำเนินโครงการฯ
- จัดกิจกรรมรณรงค์ร้านอาหารสะอาด บริโภคปลอดภัย
- จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องพ่นหมอกควันอย่างถูกวิธี และวิธีการซ่อม
เครื่องพ่นหมอกควันที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล รพสต.อบต.และอสม - สถานบริการสาธารณสุข ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ รณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความตระหนัก ร่วมมือในการดำเนินการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ที่เกิดในพื้นที่
- สถานบริการสาธารณสุขให้ความรู้โรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ที่พบในพื้นที่แก่เยาวชนนักเรียนผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา อาสาสมัคร สาธารณสุข และประชาชนในพื้นที่
- สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งดำเนินการสอบสวนโรคและดำเนินการควบคุม มีมาตรการป้องกันโรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ที่พบในพื้นที่ทุกราย
- สถานบริการสาธารณสุขให้ความรู้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข ดำเนินการให้มีรายงานเฝ้าระวังโรคติดต่อ/โรคอุบัติใหม่ที่เป็นปัญหาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกเดือน
- สถานบริการสาธารณสุขให้ความรู้โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน และรณรงค์ร่วมกับอสม.ออกติดตามและฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 0-5 ปี ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์
- คณะกรรมการบริหารกองทุนฯโรงพยาบาลแว้ง และอสม.ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการ
- อัตราป่วยด้วยโรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ตำบลแว้ง ลดลงตามเป้าหมายและตัวชี้วัด
- ประชาชนมีความรู้ในการดูแลตนเองและสามารถป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยด้วยโรคติดต่อที่ป้องกันได้
- ชุมชนที่มีการระบาดของโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ตำบลแว้งมีการดำเนินการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2560 09:24 น.