โครงการยิ้มสดใสเด็กตะลุโบะฟันดี ประจำปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการยิ้มสดใสเด็กตะลุโบะฟันดี ประจำปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L3011-1-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะลุโบะ |
วันที่อนุมัติ | 18 เมษายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 36,740.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายหวันมูฮำมัดรุสดี เจะอาแว |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะลุโบะ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.853,101.267place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 221 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : ระบุ |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันปัญหาทันตสุขภาพเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ซึ่งเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขภาพช่องปาก ขาดการดูแลเอาใจใส่ หรือสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ไม่เอื้อต่อการใส่ใจสุขภาพช่องปาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากโดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก มีอัตราฟันผุที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากผลการสำรวจสุขภาพช่องปาก โดยสำนักทันตสาธารณสุข ในปี 2556 พบว่า เด็กอายุ 3 ปี มีฟันผุร้อยละ 56.5 เด็กอายุ 12 ปี มีฟันผุร้อยละ 51.8 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่สูง อาจส่งผลต่อการสูญเสียฟันบางส่วนหรือทั้งปากเพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาทางด้านทันตสาธารณสุขที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนองค์ประกอบทางด้านปัจจัยสำคัญทางพฤติกรรมและสังคมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันผุในกลุ่มเด็กซึ่งเป็นกลุ่มอายุที่เริ่มพบว่าจะมีแนวโน้มของปัญหาทันตสุขภาพอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้ เช่น การเข้าถึงอาหารที่ไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพทำให้สัดส่วนเด็กที่บริโภคอาหารอย่างเหมาะสมลดน้อยลงส่งผลปัญหาทางสุขภาพทางกายโดยรวมด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร สุดท้ายส่งผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต บุคลิกภาพ และการเรียน จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านจะรังบองอและโรงเรียนชุมชนบ้านตะลุโบะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6ปี 2559 พบว่าร้อยละ 82.05 ของเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านจะรังบองอและโรงเรียนชุมชนบ้านตะลุโบะมีฟันผุ โดยค่าเฉลี่ยฟันผุ อุด ถอน อยู่ที่ 1.95 ซี่ต่อคน เมื่อเทียบกับระดับประเทศค่าเฉลี่ยฟันผุ อุด ถอนในปี 2555 เท่ากับ ๑.3 ซี่ต่อคน (สภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ 7 ประเทศไทย พ.ศ. 2550-2555) จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านจะรังบองอและโรงเรียนชุมชนบ้านตะลุโบะ มีอัตราการผุของฟันในเกณฑ์ที่สูง หากเราวางรากฐานเรื่องสุขภาพช่องปากแก่เด็กวัยเรียนพร้อมกับการสอดแทรกความรู้เรื่องการแปรงฟันที่ถูกวิธีในรูปแบบที่เหมาะสมกับเด็ก เพื่อให้เด็กมีความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปาก อาจส่งผลให้ปัญหาสุขภาพในช่องปากของเด็กดีขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญด้านทันตสุขภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นการส่งเสริมป้องกันไม่ให้โรคในช่องปากลุกลามและทวีความรุนแรงมากกว่าเดิม อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้โรงเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนและแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเด็กนักเรียนมีสุขภาพช่องปากที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนมีความรู้ด้านทันตสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
|
||
2 | 2.เพื่อให้นักเรียนแปรงฟันได้ด้วยตนเองอย่างถูกวิธี
|
||
3 | 3.เพื่อให้นักเรียนมีค่าแผ่นคราบจุลินทรีย์ (Plaque Index) ลดลง
|
||
4 | 4.เพื่อให้ครูเกิดทักษะในการตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้นและสามารถตรวจสุขภาพช่องปากเด็กในโรงเรียนได้
|
||
5 | 5.เพื่อให้แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขได้มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและคนในชุมชนได้
|
- ขั้นเตรียมการ 1.1 ประชุมชี้แจงโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.2 กำหนดรูปแบบกิจกรรม
- ขั้นดำเนินการ กิจกรรมที่ 1 อบรมให้ความรู้และฝึกทักษะการตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้นแก่แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขและคุณครูโรงเรียนชุมชนบ้านตะลุโบะและโรงเรียนบ้านจะรังบองอ จำนวน 36 คน
- อบรมให้ความรู้ด้านทันตสุขภาพ และความรู้ในการฝึกตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้น
กิจกรรมที่ 2 Walk rally ความรู้ทันตสุขภาพแก่นักเรียนชั้นประถมตอนปลาย จำนวน 221 คน
- ให้ความรู้เรื่องโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ
- ฝึกทักษะการแปรงฟัน ย้อมแผ่นคราบจุลินทรีย์
- ให้ความรู้เรื่องอาหารที่มีผลต่ออนามัยช่องปาก
- ให้ความรู้เรื่องบทบัญญัติอิสลามที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปาก
3. สรุปผลการปฏิบัติงาน โดยประเมินจากการปฏิบัติงานหลังเสร็จสิ้นโครงการ
- นักเรียนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เกิดความมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาทันตสุขภาพของนักเรียน
- โรงเรียนสามารถดำเนินการสานต่อกิจกรรมที่มีในโครงการได้
- นักเรียนมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น
- แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง
- แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขมีส่วนร่วมในการดำเนินงานทันตสาธารณสุขในชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2559 14:04 น.