เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก ของนักเรียนโรงเรียนวัดสุภาษิตาราม ปี 2564
ชื่อโครงการ | เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก ของนักเรียนโรงเรียนวัดสุภาษิตาราม ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L3333-02-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนวัดสุภาษิตาราม |
วันที่อนุมัติ | 17 มิถุนายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 20,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายกันต์ศักดิ์ หลีเพิ่มสุข |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายกำพล เศรษฐสุข |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 95 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : ระบุ |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 10 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวได้มีการแพร่ระบาด ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตรายแล้ว ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องชื่อ และอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563และกระทรวงศึกษาธิการ เห็นถึงความสำคัญ ความจำเป็น จึงไดแถลงความพร้อมของกระทรวงศึกษาธิการในการเปิดภาคเรียน ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ตามแนวทาง “โรงเรียนสุขภาพดี นักเรียนมีความสุข (Back to Healthy School)” โดยกล่าวว่า สถานศึกษาทุกสังกัดทั่วประเทศจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 กระทรวงศึกษาธิการได้มีแคมเปญช่วงเปิดเรียนปีนี้ “โรงเรียนสุขภาพดี นักเรียนมีความสุข (Back to Healthy School)” โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้การเรียนของนักเรียน ได้รับทั้งความรู้ และความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลักการสำคัญ คือ การเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม – 14 พฤศจิกายน 2563 และภาคเรียนที่ 2/2563 เป็นวันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 10 เมษายน 2564 ซึ่งมีเวลาเรียน 180 วัน แต่ก็จะมีการชดเชยให้ครบ 200 วัน ด้วยวิธีการต่างๆ ตามที่โรงเรียนมีอิสระกำหนดได้เอง เช่น เรียนวันเสาร์อาทิตย์ เรียนตอนเย็น เรียนออนไลน์ ฯลฯ นอกจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แล้ว ส่วนโรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก ก็ยังเป็นปัญหาที่ยังเกิดขี้นอย่างเป็นประจำและจำเป็นที่จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน มาตรการในการเปิดเรียน สิ่งสำคัญที่สุด คือ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ออกคู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแบ่งเป็น 6 มิติด้วยกัน คือโดยมิติที่ 1 ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อ มีจำนวน 20 ข้อ ในมิตินี้สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน 20 ข้อ ตามมาตรการที่กำหนดโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งได้รับคู่มือนี้ไปเตรียมรับการประเมินแล้ว ส่วนมิติที่เหลือ 24 ข้อ ก็จะเป็นมิติในการเรียนรู้ การครอบคลุมถึงเด็กด้อยโอกาส สวัสดิภาพและการคุ้มครอง นโยบาย และมิติการบริหารการเงิน เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการในการเปิดภาคเรียน โดยที่สถานศึกษาทุกแห่งจะต้องผ่านการประเมินนี้ก่อน จึงสามารถเปิดเรียนได้ ซึ่งขณะนี้สถานศึกษากว่าร้อยละ 90 มีความพร้อมผ่านการประเมินแล้วส่วนของโรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก ก็ต้องมีมาตรการในการป้องกันโรคเช่นเดียวกัน สำหรับแนวปฏิบัติของสถานศึกษาระหว่างเปิดภาคเรียน จะต้องมีการคัดกรองสุขภาพ ซึ่งโรงเรียนต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่จุดรับ-ส่งนักเรียน เพื่อจะได้ดูว่านักเรียนมีอาการป่วยหรือไม่อีกทั้งต้องให้ครูและนักเรียนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดสถานที่ล้างมือหรือแอลกอฮอล์เจล ลดการแออัด เว้นระยะห่างในห้องเรียน และทำความสะอาดสถานที่ ทั้งนี้ สถานศึกษาทุกสังกัด ทุกระดับ จะต้องมีการปรับปรุงห้องเรียน ด้วยการจัดโต๊ะที่นั่งเรียน ให้เว้นระยะห่างกันไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร และต้องปรับปรุงพื้นที่อื่น ๆ ในโรงเรียน อาทิ โรงอาหารที่ต้องเว้นระยะห่างบุคคลไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และต้องมีการทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องสุขาและจุดสัมผัสต่าง ๆ ที่สำคัญ ต้องงดการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัดอีกด้วย ดังนั้น จากเหตุผลความสำคัญ ดังกล่าวข้างต้น โรงเรียนวัดสุภาษิตารามจึงจัดทำโครงการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 โรคไข้เลือดออกและโรคมือเท้าปาก ของนักเรียนโรงเรียนวัดสุภาษิตาราม ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ในการป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก ร้อยละ 90 ของคณะครูและนักเรียนในโรงเรียนวัดสุภาษิตารามได้รับข้อมูลความรู้แนวปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 ไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก |
0.00 | |
2 | เพื่อจัดหา วัสดุ อุปกรณ์ ให้เพียงพอต่อการดำเนินงานเฝ้าระวัง และควบคุมโรค โรงเรียนวัดสุภาษิตารม มีวัสดุ อุปกรณ์เพียงพอในการดำเนินงานเฝ้าระวังควบคุมโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโคโรนา 2019 โรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 210 | 20,400.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 64 - 31 มี.ค. 65 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 ไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก/เรื่องสุขบัญญัติ 10 ประการ | 105 | 7,350.00 | - | ||
1 ก.ค. 64 - 31 มี.ค. 65 | กิจกรรมจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 | 105 | 13,050.00 | - |
ขั้นเตรียมการ 1) ประชุมชี้แจงนำเสนอโครงการ 2) จัดทำแผนงานโครงการ เพื่อเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุน ขั้นดำเนินการ 1) ขั้นวางแผนการปฏิบัติ - จัดเตรียมวิทยากรอบรมให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 โรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก แก่นักเรียน คณะครู บุคลากรทางศึกษา - จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 ได้แก่ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากผ้า สายคล้องคอ สบู่เหลวล้างมือ 2) ขั้นดำเนินการตามแผน - ดำเนินงานตามโครงการ 3) ขั้นตรวจสอบและประเมินผล - ประเมินผลและสรุปผลการดำเนินงาน
- นักเรียนได้รับความรู้จากการอบมจากวิทยากร เรื่อง โรคติดเชื้อไวรัสโควิค 19 โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปากและสุขบัญญัติ ๑๐ ประการ
- นักเรียนมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพป้องกันโรคโควิค 19 โรคไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปาก ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- นักเรียนนำความรู้ไปเผยแพร่แก่ผู้ปกครองและบุคคลในชุมชนได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 15:40 น.