โครงการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
ชื่อโครงการ | โครงการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า (COVID-19) |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สำนักปลัด |
วันที่อนุมัติ | 30 กรกฎาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 17 สิงหาคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 81,150.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวมยุรา ประชุมกาเยาะมาต |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.704,101.584place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกเดือนเมษายน พ.ศ.2564 ซึ่งได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการกระจายของเชื้อโรคซึ่งต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโรคอื่นๆ ร่วมด้วย ทั้งการเว้นระยะห่างระหว่างกัน (D : Distancing) การล้างมือบ่อยๆ (H : Hand Washing) การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสถานที่ (T : Temperature) การตรวจหาเชื้อ (T : Testing) การประเมินความเสี่ยงด้วยแอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด (A : Application) และการฉีดวัคซีน รวมถึงการหลีกเลี่ยง สถานที่แออัด โดยเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถแพร่กระจายในอากาศเมื่อมีการไอ จาม พูดคุย ตะโกนหรือ ร้องเพลง ไปยังบุคคลใกล้ชิดโดยการหายใจละอองฝอยเข้าไป การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า จึงเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อยู่ในละอองฝอย ทุกคนจึงควรสวมหน้ากาก แม้ยังไม่มีอาการป่วย โดยเฉพาะเมื่อมีความเสี่ยงหรืออยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรค เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 23) ลงวันที่15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ข้อที่ 1 กำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือในสถานที่สาธารณะ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่หรือรับเชื้อ และจำกัดวงในการระบาดของโรคและเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่(พิเศษ) 5/2564 เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อออกจากเคหะสถาน หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษไม่เกิน 20,000 บาทนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลบือเระ จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า(covid-19) เพื่อรณรงค์และให้ความรู้และคำแนะนำที่ถูกต้องในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกจากเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
- จัดทำโครงการเสนอเพื่อขออนุมัติโครงการ
- แต่งตั้งคณะทำงานพร้อมจัดทำแผนกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า(covid-19)
- จัดหาวัสดุ/อุปกรณ์สำหรับการป้องกันและควบคุมโรคเช่นหน้ากากอนามัย
- ลงพื้นที่จัดทำกิจกรรมรณรงค์และให้ความรู้และคำแนะนำการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าที่ถูกต้องเมื่อออกจากเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ และวิธีป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนครัวเรือนละ 1 กล่อง
- ติดตาม ประเมินผล สรุปผลการดำเนินงานโครงการ
- ประชาชนตื่นตัว และมีความรู้ที่ถูกต้องในการสวมหน้ากากทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
- ประชาชนให้ความสำคัญกับมาตรการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญประการแรกในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคไวรัสโคโรนา 2019
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 11:32 น.