โครงการพฤติกรรมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยของเกษตรกร
ชื่อโครงการ | โครงการพฤติกรรมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยของเกษตรกร |
รหัสโครงการ | 2565-L3351-01-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยาว |
วันที่อนุมัติ | 30 กันยายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2565 - 29 กรกฎาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 กรกฎาคม 2565 |
งบประมาณ | 10,950.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายเอนก กลิ่นรส |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของเกษตรกรที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างในเลือดเกินมาตรฐานความปลอดภัย | 68.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์ และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมองผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตาซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่างๆ ขึ้นมาเช่นโรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อโรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากถึงร้อยละ ๘๐ของพื้นที่ทั้งหมดซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ ทำไร่อ้อย ทำไร่ข้าวโพด ทำสวน ปลูกพืชผักผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงอยู่ จากข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าเกษตรกร ยังคงมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในการนำมาใช้นั้นได้มีการใช้อย่างไม่ถูกวิธีและขาดความรู้ จึงทำให้มีผลกระทบกับด้านสุขภาพโดยตรง ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยาว จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกร จึงได้จัดทำโครงการสำรวจความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ขึ้นเพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใดเพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทุกคนมีทักษะประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง อันเนื่องมาจากการใช้สารเคมีในเกษตรกร เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายทุกคนมีทักษะประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง อันเนื่องมาจากการใช้สารเคมี |
5.00 | 150.00 |
2 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงทุกคนจากการคัดกรองได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นทุกคน |
68.00 | 102.00 |
3 | เพื่อลดความเสี่ยงสารเคมีตกค้างในเลอดลง ร้อยละ 80 เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงลดความเสี่ยงสารเคมีตกค้างในเลอดลง ร้อยละ 80 |
102.00 | 150.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
20 - 22 เม.ย. 65 | ตรวจคัดกรองสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร | 0 | 3,600.00 | ✔ | 3,600.00 | |
22 เม.ย. 65 | อบรมเกษตรกรให้มีความรู้และมีทักษะในการเฝ้าระวังการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช | 0 | 7,350.00 | ✔ | 7,350.00 | |
13 พ.ค. 65 | จัดบริการลดสารเคมีตกค้างในเลือดกลุ่มเสี่ยงฯโดยใช้ชาสมุนไพรรางจืด | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
รวม | 0 | 10,950.00 | 3 | 10,950.00 |
- กลุ่มเกษตรกรทุกคนมีทักษะประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพตนเองอันเนื่องมาจากการใช้สารเคมี
- กลุ่มเสี่ยงฯที่ได้รับที่ได้รับการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดในรายที่มีภาวะเสี่ยงสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกคน
- กลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีระดับสารเคมีตกค้างในเลือดลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 00:00 น.