โครงการรับรู้มาตราการป้องกันและควบคุมการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ชื่อโครงการ | โครงการรับรู้มาตราการป้องกันและควบคุมการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน |
รหัสโครงการ | L1478-65-02-008 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข รพ.สต.ละมอ |
วันที่อนุมัติ | 25 กุมภาพันธ์ 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2565 - 29 กรกฎาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสมพร หวานทอง |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวลัยภรณ์ เยาดำ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.597,99.753place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 2019 ซึ่งมีการประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้ โรคไวรัสโค โรน่า หรือ COVID-19 เป็นโรคร้ายแรง ทำให้เกิดการตื่นหนักของประชาชนทั่วโลกและคนไทย ซึ่งพบการระบาดไป ในหลายประเทศส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมอย่างรุนแรง สถานการณ์การระบาด กำลังแพร่กระจายยังไม่สามารถควบคุมได้สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ ตัวไวรัส COVID-19 จะทำให้เกิดอาการไข้สูง จาม ไอ การอักเสบของปอดและเยื้อหุ้มปอดอย่างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามอัตราการตายไม่ได้สูงมากนักเพียง 1-3% ร้อยแรงน้อยกว่า SARซึ่งมีอัตราการตาย 10 % ดังนั้น มาตรการการป้องกันไม่ให้ติดโรค COVID-19 นั้นถือว่าจำเป็น ด้วยการดำเนินมาตรการการรักษาร่างกายให้แข็งแรงออกกำลังกายเพื่อมิให้ป่วย การป้องกันตนเอง เช่น หลีกเลี่ยง การเดินทางไปในประเทศหรือสถานที่มีคนพลุกล่าน การล้างมือให้สะอาดอย่างถูกต้อง ทั้งด้วยแอลกอฮออล์เจล สบู่ การสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี การไม่นำเอามือมาป้ายหรือ จับหน้า ความรู้และเข้าใจการดำเนินไปของโรค เป็น สิ่งสำคัญนั้น ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และ ปี 2564 มีประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 1,4,8,9,10 ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 37 รายและเสียชีวิต 1 ราย จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ระลอกใหม่ ส่งผลให้มีประชาชนติดเชื้อและเริ่มกระจายในวงกว้างมากขึ้น การป้องกันการติดเชื้อสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อ COVID-19 การสัมผัสกับผู้ป่วย หรือ ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากสงสัยว่าตนเองอาจจะได้รับเชื้อควรแยกสังเกตอาการอย่างน้อย 14 วัน ขณะแยกสังเกตอาการต้องงดการเดินทางหรืออยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่น งดใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการบูรณาการทุกภาคส่วน เครื่องมือ ทรัพยากรและงบประมาณเพื่อสนับสนุนบทบาทของภาคีเครือข่าย ร่วมกันขับเคลื่อนยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้ประชาชนมีความรอบรู้ในการดูแลตนเอง ครอบครัว สังคม และมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการต่างๆ ขององค์กรในการรับมือการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 เพราะการรับรู้และบทบาทการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลละมอ ซึ่งมีอาสาสมัครสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 69 คน และเป็นด่านหน้าในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่บ้านตลอดมาตั้งแต่เริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่ และในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านได้ทำหน้าที่ป้องกันและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข รพ.สต.ละมอ จึงเห็นความสำคัญในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 จึงได้จัดทำโครงการรับรู้มาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลละมอ จำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้ข่าวสาร มาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19และการสร้างภูมิคุ้มกันโรค
|
0.00 |
- อัตราป่วยด้วยโรคโควิด-19 ลดลง
- มีภาคีเครือข่ายร่วมกันป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2565 14:25 น.