โครงการจัดการศพกรณีเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในพื้นที่ตำบลบางตาวา
ชื่อโครงการ | โครงการจัดการศพกรณีเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในพื้นที่ตำบลบางตาวา |
รหัสโครงการ | 65-L3068-10(1)- |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | องค์การบริหารส่วนตำบลบางตาวา |
วันที่อนุมัติ | 24 มีนาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 3 ตุลาคม 2565 |
งบประมาณ | 11,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายรุสลี ดะเก๊ะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายแวอูเซ็ง แวสาและ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบางตาวา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในพื้นที่ | 8.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ระลอกใหม่จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 2019 ซึ่งมีการประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้ โรคไวรัสโค โรน่า หรือ COVID-19 เป็นโรคร้ายแรงทำให้เกิดการตื่นหนักของประชาชนทั่วโลกและคนไทย ซึ่งพบการระบาดไป ในหลายประเทศส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมอย่างรุนแรง สถานการณ์การระบาด กำลังแพร่กระจายยังไม่สามารถควบคุมได้สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ ตัวไวรัส COVID-19 จะทำให้เกิดอาการไข้สูง จาม ไอ การอักเสบของปอดและเยื้อหุ้มปอดอย่างรุนแรง โดยตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันมีประชาชนในพื้นที่ตำบลบางตาวา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 150 รายและเสียชีวิต 8 ราย โดยการจัดศพในช่วงโควิด-19หลักการอิสลามมีความเชื่อว่าพระเจ้า(อัลลอฮ์) เป็นผู้สร้างมนุษย์ขึ้นในโลก โดยกำหนดเวลาเกิด เวลาตายไว้ให้แล้ว มนุษย์มีหน้าที่ต้องเคารพ ศรัทธา สักการะอัลลอฮ์ด้วยการทำความดี นอกจากนี้ยังเชื่อเรื่องโลกหน้าว่าเป็นโลกแท้จริงที่พึงปรารถนา เป็นชีวิตที่จีรัง ยั่งยืน ชีวิตในโลกนี้เป็นเพียงทางผ่านสู่โลกหน้าเท่านั้น ความตายจึงไม่ใช่การสิ้นสุดชีวิตแต่เป็นการย้ายชีวิตจากโลกนี้ไปยังโลกหน้าที่สุขสบายกว่า ยั่งยืนกว่า ศาสนาอิสลามจึงสอนให้มนุษย์ระลึกถึงความตายอยู่เสมอจะได้ไม่ทำความชั่ว ให้ทำแต่ความดีและอดทนต่อความทุกข์ ความเจ็บป่วยที่ผ่านเข้ามา เพราะนั่นเป็นเพียงบททดสอบถึงความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า ผู้ที่ท้อแท้ สิ้นหวังกับชีวิตพึงระลึกไว้เสมอว่าพระเจ้าเป็นที่พึ่ง และทรงมีเมตตาให้อภัยมนุษย์เสมอ ดังนั้น มนุษย์จึงควรทำความดีเพื่อจะได้ใช้ชีวิตในโลกหน้าอย่างมีความสุข เมื่อมุสลิมเสียชีวิตญาติหรือผู้เกี่ยวข้องจะต้องอาบน้ำ ห่อละหมาดขอพรและฝังศพที่สุสาน(กุโบร์) โดยต้องรีบจัดการให้เสร็จภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งขั้นตอนการอาบน้ำและห่อผู้เสียชีวิตนั้นจะทำกันที่บ้านของผู้เสียชีวิต และมักจะไม่มีการป้องกันอย่างถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ เช่น ไม่มีการสวมถุงมือยาง ไม่มีการสวมผ้าปิดปาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อให้การจัดการศพของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๑๙)เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และใช้หลักศาสนาอิสลาม เพื่อให้ผู้ทำหน้าที่ในการจัดการศพมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอาบน้ำศพ การห่อศพ และการจัดการศพที่ถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ/ตามหลักศาสนาอิสลาม ลดการแพร่เชื้อที่อาจเกิดขึ้นแก่ผู้ทำหน้าที่ในการจัดการศพ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคติดต่อในการจัดการศพ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๑๙) องค์การบริหารส่วนตำบลบางตาวา จึงได้จัดโครงการจัดการศพของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๑๙) ในพื้นที่ตำบล บางตาวา
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพของแต่ละชุมชน/มัสยิด มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคติดต่อในการจัดการศพ โควิด-19 ร้อยละ 80 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคติดต่อในการจัดการศพโควิด-19 ที่ถูกต้อง |
0.00 | |
2 | เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดการศพ ร้อยละ 100 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพมีความปลอดภัยและลอดเชื้อจากการจัดการศพ |
0.00 | |
3 | เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอาบน้ำศพ การห่อศพ การจัดการศพที่ถูกต้องตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดและตามหลักศาสนาอิสลาม ร้อยละ 70 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพดำเนินการจัดทำศพที่ถูกต้องตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดและตามหลักศาสนาอิสลาม |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 11,400.00 | 0 | 0.00 | |
1 มิ.ย. 65 - 29 ก.ค. 65 | กิจกรรมอบรมแกนนำสุขภาพ อสม. คณะกรรมการมัสยิด ผู้นำชุมชน จำนวน 30 คน | 0 | 11,400.00 | - | ||
1 ก.ค. 65 - 31 ส.ค. 65 | กิจกรรมประชุมและแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการศพโควิด-19 ในพื้นที่ | 0 | 0.00 | - | ||
1 - 30 ก.ย. 65 | กิจกรรมติดตามและสรุปผลการดำเนินการเพื่อดำเนินการสรุปโครงการ | 0 | 0.00 | - |
- ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคติดต่อในการจัดการศพโควิด-19ที่ถูกต้อง
- ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพไม่มีการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดการศพ
- ผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการศพความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอาบน้ำศพ การห่อศพ การจัดการศพที่ถูกต้องตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดและตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2565 12:09 น.