โครงการค้นหาคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ในสถานศึกษา
ชื่อโครงการ | โครงการค้นหาคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ในสถานศึกษา |
รหัสโครงการ | 65-L2492-2-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านทอน |
วันที่อนุมัติ | 4 เมษายน 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 88,060.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูร์อาซิกีน ธำรงทรัพย์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.482,101.763place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ด้วยในปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด ๑๙ ยังมีอยู่ ทั้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและอีกประเทศทั่วโลก ทราบกัดีว่าเป็นรคติดต่อตราย เป็นเหตุให้รัฐบาลไทยต้องประกาศสถานการณ์เขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ออกพระราชกำหนดเพื่อใช้ในการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๒๓ และตามมติคณะรัฐมนตรีได้ขยาย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และในปี๒๕๖๔ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ๒๕๖๔ เว็บไชต์ราชกิจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒0๑๙ (โควิด-๑๙) ที่ ๑๑/๒๕๖๔เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศระบุว่าตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ ๑๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-๑๙' ทวีความรุ่นแรงมากยิ่งขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึง ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยวางมาตรการที่พึงปฏิบัติสำหรับบุคคลบางประเภท ซึ่งกำหนดให้เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-๑๙ ได้ง่าย อยู่ในเคหะสถานหรือบริเวณสถานที่พักของตนเองเพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก จากสถานการณ์การระบาดในตอนนี้ สายพันธุ์เดลต้า สายพันธ์โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในระบาดอย่างรวดเร็วและคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้พิจารณาเปิดเรียนในสถานศึกษา มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการตรวจค้นหาตรวจโควิดเชิงรุก เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันโรคอย่างทันท่วงที ดังนั้นเพื่อเป็นการร่วมมือหยุดการแพร่ระบาด เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาเชิงรุกและการป้องกันไม่ให้เกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งมาจากการปฏิบัติตนไม่ถูกต้องของบุคคลทั่วไปและผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ โดยมีภาวะโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูงใน ๗ กลุ่มโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง และโรคทางเดินหายใจกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดเสี่ยงสูง หรือผู้สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ตามนิยามผู้สั่มผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องกำหนดมาตรการควบคุมป้องกัน ตามหลัก New Normal และ DMHIT อย่างเข้มงวดเพียงพอต่อการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพในการนี้จึงต้องปรับกระบวนการโดยจัดให้มีกิจกรรมคัดกรองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้ขายอาหาร เข้าสู่ระบบการคัดกรอกตรวจหาเชื่อโควิด - ๑๙ มีการสุ่มตรวจนักเรียนที่มาเรียน on site และบุคลการในโรงเรียน ด้วยชุดตรวจ ATK และเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติด้านสุขอนามัยส่วนบุคคลและครอบครัว รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนและครูบุคลากรทางการศึกษาและครอบครัวได้ปฏิบัติตนตามแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่กรมควบคุมโรคได้จึงจัดให้มีโครงการนี้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนและ บุคลากรทางการศึกษา ได้รับการเฝ้าระวังติดตามดูแล อย่างใกล้ชิด ให้ความรู้ด้านระบาดของโรคติดเชื้อโควิด- ๑๙ เพื่อไม่ให้เป็นพาหะนำโรคระบาด ในชุมชนได้ นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการ เฝ้าระวังติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด มีความรู้ด้านระบาดของ โรคติดเชื้อโควิด-๑๙ |
0.00 | |
2 | เพื่อให้กับนักเรียนและบุคลากร ทางการศึกษา ได้รับคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทัศนคติ ให้สามารถลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดติดเชื้อโรคโควิด- ๑๙ อาจจะเกิดขึ้นได้ในชุมชน นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทัศนคติให้สามารถลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดติดเชื้อโรคโควิด-๑๙ อาจจะเกิดขึ้นได้ในชุมชน |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 629 | 88,060.00 | 0 | 0.00 | |
17 พ.ค. 65 - 31 ส.ค. 65 | กิจกรรมคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ในโรงเรียนบ้านทอน | 629 | 88,060.00 | - |
๑. ประชุมทีมงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคลากร ผู้นำนักเรียน ผู้แทนผู้ปกครอง เพื่อแสดงความเห็นความต้องการในการกำหนดมาตรการคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit
๒.จัดทำแผนวิธีการดำเนินงานโครงการและเขียนโครงการ เสนอโครงการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
๓. คัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ในโรงเรียน
๔. จัดทำทะเบียนการตรวจ โดยระบุชื่อ สกุล เลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และมีการติดตาม หรือให้กลุ่มที่ได้รับการตรวจ ATK สังเกตอาการตนเองหลังการตรวจอีก ๓-๕ วัน หากมีอาการไข้ ไอ ความผิดปกติทางสุขภาพ ให้รีบแจ้งผู้ประสานงานที่โรงเรียน อสม. รพ. สต. รพ. เพื่อประเมินอาการ โดยอาจมีการตรวจด้วย Atk ซ้ำ
๕. เมื่อมีผลตรวจจากการคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit แล้วให้แจ้งผลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคในส่วนที่เกี่ยวข้อต่อไป
๖.สรุปผลดำเนินงานโครงการนำส่งคณะกรรมการกองทุนฯ
1.นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้ขายอาหาร ผู้ให้บริการรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นประจำได้รับคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit และเฝ้าระวังติดตามรายงานผลอย่างต่อเนื่อง 2. สามารถควบคลุมป้องกันโรคระบาดโควิด -๑๙ ในโรงเรียนและชุมชนได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 11:03 น.