กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการจัดหาวัสดุทางการแพทย์ และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะปัญหาทางการเคลื่อนไหวในตำบลลุโบะบือซา ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง

ที่อยู่ ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส จังหวัด นราธิวาส

รหัสโครงการ 65-L2501-3-04 เลขที่ข้อตกลง 19/2565

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 ถึง 30 กันยายน 2565

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการจัดหาวัสดุทางการแพทย์ และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะปัญหาทางการเคลื่อนไหวในตำบลลุโบะบือซา ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง จังหวัดนราธิวาส" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ลุโบะบือซา ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการจัดหาวัสดุทางการแพทย์ และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะปัญหาทางการเคลื่อนไหวในตำบลลุโบะบือซา ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการจัดหาวัสดุทางการแพทย์ และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะปัญหาทางการเคลื่อนไหวในตำบลลุโบะบือซา ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส รหัสโครงการ 65-L2501-3-04 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2565 - 30 กันยายน 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 90,000.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ลุโบะบือซา เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีการปลี่ยนแปลงทางสรีระร่างกาย การทำหน้าที่ของร่างกายลดลงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ จากสถานการณ์ด้านโครงสร้างประชากรในปัจจุบัน ซึ่งมีประชากรรวม 64.5 ล้านคน พบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 9.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 14.57% ของประชากรรวม มีจำนวนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 9.77% ของประชากรรวม จากข้อมูลดังกล่าวเกิดผลกระทบ ทำให้เกิดความชุกเพิ่มมากขึ้นของโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความเสื่อมถอยของอวัยวะ นอกจากนี้จะพบโรคของผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการดูแลระยะยาว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามการสูงวัยของประชากร ส่วนผลทางด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า อัตราการพึ่งพิงของประชากรสูงอายุต่อคนวัยทำงานของประเทศไทย ในปี พ.ศ.2553 วัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 19.7 คน ซึ่งในปี พ.ศ. 2563 วันทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 30.3 คน เมื่อพิจารณาถึงสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพของภาครัฐ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GOP) ในปี 2553 รวมเท่ากับ 2.2% เป็นภาระค่าใช้จ่ายด้านบริการด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ เท่ากับ 0.6% คิดเป็น 27% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการด้านสุขภาพทั้งหมด ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2565 รวม เท่ากับ 2.8% เป็นภาระค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพของผู้สูงอายุเท่ากับ 1.1% คิดเป็น 39% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพทั้งหมดนโยบายหลักในการบริหารประเทศ ภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ คือ นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ วัยเด็ก วัยเจริญพันธุ์ วัยบรรลุนิติภาวะ วัยชรา และผู้พิการ โดยสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนนโยบายความั่นคงของชีวิตและสังคม ให้มีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้วยโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ สำหรับรองรับผู้สูงอายุและคนพิการ สร้างความพร้อมในการเป็นสังคมผู้สูงอายุพัฒนาบริการสุขภาพอนามัย ให้การสงเคราะห์ จัดการศึกษา จัดสวัสดิการ รวมถึงหาอาชีพให้แก่ผุ้ด้อยโอกาส ผู้พิการหรือทุพพลภาพ และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมภายใต้หลักคิดที่ว่า ผู้สูงอายุเป้นบุคคลที่มีประสบการณ์สูง สมควรให้มามีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง การมีส่วนร่วมเป็นการที่กลุ่มบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกขั้นตอนของโครงการหรือกิจกรรม เข้ามรร่วมกระทำกิจกรรมให้เกิดความพัฒนา และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การกำหนดนโยบาย กำหนดวัตถุประสงค์และแผนงานร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติงานตามแผนงานของโครงการรวมทั้งได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วมในกระบวนการ หรือกิจกรรมนั้นๆทั้งทางตรงและทางอ้อม ในที่นี้คือการที่ผู้สูงอายุ ครอบครัวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดสวัสดิการเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาจรฐาน เพราะถ้ากิจการใดๆก็ตามที่มีผู้สูงอายุและครอบครัวที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของและร่วมกิจกรรมแล้ว กิจกรรมนั้นจะสำเร็จและดำรงอยู่ได้อย่างถาวร ในการมีส่วนร่วมต้องให้ผู้สูงอายุและครอบครัวมีความรู้ มีความเข้าใจในกระบวนการนั้นอย่างถ่องแท้ สมารถมองเห็นและคาดหวังในผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อชุมชน อีกทั้งได้รับข้อมูลข่าวสาร ที่เกี่ยวกับตนเองหรือตรงกับปัญหาของตนเอง และแสวงหาหาทางแกไขเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จนเกิดการตัดสินใจร่วมกัน ถือว่ามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของชุมชนนำไปสู่ความยั่งยืนของกิจกรรม และการดำเนินการกิจกรรมนั้นจะประสบความสำเร็จ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องศึกษาวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ได้รับ เพราะจะช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติดำเนินกิจกรรมไปในแนวทางเดียวกัน มาตรฐานการสงเคราะห์ผู้สูงอายุ มีความครอบคลุมในด้านการดูแลลุขภาพและการรักษาพยาบาล ในการจัดให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุเกี่ยวกับสุขภาพ มีการจ่ายเบี้ยยังชีพตามจนวนเงินที่กฎหมายกำหนดเพื่อเป็นรายได้กับผู้สูงอายุ มีการจัดหาที่พักอาศัย ให้แก่ผู้สูงอายุตามความจำเป็น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ มีการจัดตั้งชมรม พาผู้สูงอายุไปสันทนาการ มีศูนย์ให้การช่วยเหลือและคุ้มครอง และมีเครือข่ายเกื้อหนุนในการจัดกิจกรรมต่างๆ เห็นๆได้ว่า กิจกรรมดำเนอนการทั้งหมดเป็นการดูแลให้ความช่วยเหลือแบบองค์รวม ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงครอบครัว แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐที่ให้ผู้สูงอายุ รวมทั้งครอบครัว ชุมชน จึงจะทำให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆในการจัดสวัสดิการสำเร็จ แม้ว่าสังคมไทยจะมีนโยบายและแผนเกี่ยวกับผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีลักษณะเป็นนโยบายทั่วไปที่ใช้กับผู้สูงอายุใบขอบเขตทั่วทั้งประเทศ ยังไม่มีแผนหรือนโยบายที่ใช้สำหรับจัดการปัญหาผู้สูงอายุในลักษณะเฉพาะพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความรุนแรงสูงและผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จึงอาจทำให้ไม่สามารถตอบสนองปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างครอบคลุมในมิติต่างๆของชีวิต กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น อบต. ลุโบะบือซา สามารถนำผู้สูงอายุในตำบล จำนวน 587 คนก้าวเจ้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานการสงเคราะห์ผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมและทั่วถึง รวมทั้งเป็นแนวทางให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการดูแลช่วยเหลือและจัดสวัสดิการผุ้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดำรงชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างสันติสุข และยั่งยืน สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามอัตภาพไม่เป็นภาระของผู้อื่น ศูนย์บริการผู้สูงอายุและผู้พิการ ตำบลลุโบะบือซา จึงได้จัดทำประชาคมสุขภาพผู้สูงอายุที่ต้องการต่อการดำรงชีวิตที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มัผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องการให้ ศูนย์บริการผู้สูงอายุและผู้พิการทั่วไป ตำบลลุโบะบือซา จัดหาวัสดุทางการแพทย์และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะปัญหาทางการเคลื่อนไหวในตบลลุโบะบือซา ซึ่งกายอุปกรร์มีความจำเป็นต่อการช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผุ้สูงอายุทุกคนให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เท่าที่จะทำได้ต่อไป

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1.เพื่อจัดหาวัสดุทางการแพทย์และกายอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและที่ีมีปัญหาทางการเคลื่อนไหว ตำบลลุโบะบือซา ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ผู้สูงอายุมีวัสดุทางการแพทย์และกายอุปกรร์สำหรับผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับภาวะที่มีปัญหาทางการเคลื่นไหวในตำบลลุโบะบือซา ในการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่าชีวิตที่ผู้สูงอายุพึ่งมี
2.ผู้สูงอายุในตำบลลุโบะบือซษ มีการส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น