โครงการสื่อสารความเสี่ยงเพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ NEW NORMAL
ชื่อโครงการ | โครงการสื่อสารความเสี่ยงเพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ NEW NORMAL |
รหัสโครงการ | 65-L8423-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเจ๊ะเก |
วันที่อนุมัติ | 16 มิถุนายน 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 31,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางรอซีตา กูโน |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายอัหมัด อีอาซา |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.277,101.691place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่กำลังระบาดทั่วโลกในขณะนี้ รวมไปถึงประเทศไทยที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) เช่นกัน ส่งผลกระทบในวงกว้าง มีอัตราป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและอัตราการเสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน สร้างความเดือดร้อนเสียหายทั้งต่อสุขภาพพลานามัยและผลกระทบในทางอ้อมทั้งสภาพเศรษฐกิจสังคมแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าข้อมูลผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2564) พบผู้ป่วยยืนยัน 133,681,724 ราย เสียชีวิต 2,900,921 รายและพบผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 20,870,428 ราย และข้อข้อมูลผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2564) พบผู้ป่วยยืนยัน 30,869 ราย เสียชีวิต 96 รายและพบผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 1,741 ราย และข้อข้อมูลผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ในจังหวัดนราธิวาส (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2564) พบผู้ป่วยยืนยัน 343 ราย เสียชีวิต 3 ราย จากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความเสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันทั้งในระดับนโยบาย
และในระดับพื้นที่เพื่อสกัดกั้นยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของประชาชน เกิดการเจ็บป่วยและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนถึงเสียชีวิตได้ อนึ่ง เชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) เป็นโรคระบาดที่สามารถติดต่อได้ง่ายและติดต่อได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีภาวะแทรกซ้อนที่จะทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นการควบคุมเฝ้าระวังโดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง การดำเนินงานตามหลักมาตรฐานทางระบาดวิทยา การสอบสวนโรคและควบคุมป้องกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ตลอดจนการสื่อสารเรื่องมาตรการการป้องกันการติดเชื้อให้แก่ประชาชนก็มีความสำคัญไม่ลดหย่อนไปกว่ากันที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อการป้องกันการติดเชื้อ ทั้งในเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย การกำชับส่งเสริมในเรื่องของการล้างมือบ่อยๆ การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing) และการเฝ้าระวังสังเกตอาการ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดทั้งจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และกระบวนการที่ต้องปฏิบัติจากประชาชน เป็นกระบวนที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจและการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องจึงจะทำให้หยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ได้ ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเจ๊ะเกตำบลบาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะจัดให้มี โครงการสื่อสารความเสี่ยงเพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ NEW NORMAL เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) โดยมีมาตรการการควบคุมป้องกันโรคทางระบาดวิทยาที่มีมาตรฐานและมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ 1.ประชาชนมีการรับรู้ข้อมูล มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการแพร่ระบาดของโรคและปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางสาธารณสุข สามารถตอบแบบสอบถามข้อมูลและมีผลการประเมินความรู้ระดับสูง ร้อยละ 80 2.สามารถดำเนินการตามมาตาการทางระบาดวิทยาที่มีมาตรฐานและการดำเนินงานด้านการควบคุมและป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ |
0.00 |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565 15:12 น.