กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการนวัตกรรมน้ำหมักชีวภาพลดโรคประชาชนร่วมใจลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2565 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแป-ระใต้ จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการนวัตกรรมน้ำหมักชีวภาพลดโรคประชาชนร่วมใจลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2565 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแป-ระใต้

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการนวัตกรรมน้ำหมักชีวภาพลดโรคประชาชนร่วมใจลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียง ประจำปีงบประมาณ 2565 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแป-ระใต้ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล รหัสโครงการ ระยะเวลาการดำเนินงาน 23 มิถุนายน 2565 - 31 สิงหาคม 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 15,900.00 บาท จาก กองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

สภาวะโลกร้อน เป็นปรากฏการณ์สืบเนื่องมาจาก การที่โลกไม่สามารถระบายความร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ได้อย่างที่เคยเป็น ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากการที่มนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตพลังงาน และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวสำคัญที่สุดออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน และผลกระทบที่เห็นได้ชัด คือ มหันตภัยต่อมวลมนุษย์ เช่น การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ทำให้ปริมาณน้ำในมหาสมุทรทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เกิดมหันตภัยต่างๆ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว พายุหมุน โรคระบาดใหม่ๆ ที่มีความถี่และรุนแรงมากขึ้น เกิดภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงกว่าที่เคย และภัยธรรมชาติต่างๆ อีกมากมายล้วนเกิดจากภาวะโลกร้อนทั้งสิ้น ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse effect) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีมาคู่กับโลกของเรา เนื่องด้วยในชั้นบรรยากาศโลกมีก๊าซเรือนกระจกที่มีสมบัติดูดกลืนความร้อน ได้แก่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซโอโซนและไอน้ำ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ส่องมายังโลก พลังงานแสงจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งพลังงานความร้อนจะมีการสะท้อนกลับสู่อวกาศ หากโลกไม่มีชั้นบรรยากาศที่มีก๊าซเรือนกระจกช่วยดูดกลืนความร้อนไว้ โลกของเราก็จะเย็นยะเยือกในเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันจะมีอุณหภูมิสูงมาก จะเห็นได้ว่าปรากฏการณ์เรือนกระจกช่วยให้โลกมีอุณหภูมิพอเหมาะไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาโลกร้อนดังเช่นปัจจุบัน ปัญหาโลกร้อนได้เริ่มขึ้นเมื่อชั้นบรรยากาศของโลกถูกทำลายเพราะบทบาทของบรรยากาศโลกคือการเอื้อให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตและเอื้อให้สิ่งชีวิตดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขในสภาพธรรมชาติ ที่สมดุล แต่เนื่องจากชั้นบรรยากาศบางเบามาก จึงง่ายที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบดังนั้น เมื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของประชากรโลก ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกและนำไม้มาเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม ต่อมาเมื่อมีการนำเอาปิโตรเลียมมาเป็นเชื้อเพลิงพร้อมกับความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยิ่งทำให้โรงงานอุตสาหกรรมปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมหาศาล นอกจากนี้ เทคโนโลยีด้านยานยนต์เพื่อการคมนาคมและขนส่งก็ปลดปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากเช่นกัน รวมทั้งการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรามีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายกิจกรรมเช่น การทำอาหารและการเผาสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการดำเนินชีวิตของมนุษย์เราในปัจจุบัน ได้ทำลายองค์ประกอบของบรรยากาศโลก ทำให้ปริมาณของก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และ ก๊าซมีเทน นอกจากนี้ยังมีสารซีเอฟซี (CFC : Chloro fluoro carbon) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์และสามารถดูดกลืนความร้อนได้ปริมาณมากได้ถูกนำมาใช้เป็นสารทำความเย็นในเครื่องทำความเย็นต่าง ๆ และใช้ในกระบวนการผลิตโฟม เป็นต้น การลดปัญหาโลกร้อนสามารถลดปัญหาได้หลายวิธี เช่น การเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและการคัดแยกขยะ และกำจัดขยะได้ถูกวิธี จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันขยะมูลฝอยประเภทขยะสดสีเขียวและขยะแห้งสีน้ำตาลเป็นปัญหาสำคัญภายในหน่วยงาน ชุมชนทั้งในปัญหาเรื่องของกลิ่นเหม็นจากการเผาท้าลาย แมลงวันนำโรค ฯลฯ. ตลอดจนยังส่งผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนมากขึ้นทั้งในด้านสุขภาพ และมลภาวะทางอากาศ ด้วยความคิดแบบเดิมๆ ในเรื่องของการกำจัดการขยะมูลฝอยให้มีประสิทธิภาพ และครบวงจรแทนการเผาทำลายนั้นเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนยุ่งยากและใช้เวลานานจึงทำให้ที่ผ่านมาการกำจัดขยะดังกล่าวยังไม่ถูกวิธีและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิดนำสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องการกำจัดขยะมูลฝอยประเภทขยะสดสีเขียวและขยะแห้งสีน้ำตาลให้มีประสิทธิภาพและครบวงจรมากขึ้นโดยการพัฒนามาเป็นการหมักทำปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้และวัสดุเหลือใช้ทำให้ได้ผลผลิตนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบของน้ำหมัก ปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งสามารถลดปริมาณขยะที่ต้องการกำจัด ลดการเผาขยะ กลางแจ้ง ลดมลพิษทางอากาศภายในหน่วยงาน และชุมชน ส่งผลให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น อีกทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนาภายในหน่วยงาน และชุมชน ถึงแม้จะเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยาก แต่เราก็สามารถ ช่วยลดมลภาวะดังกล่าวได้ด้วยตัวเรา เพราะปัญหามลพิษส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ดังนั้นแนวทางการลดมลภาวะทางอากาศ ด้วยตัวเรา จึงต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั่นเอง เราทุกคนสามารถร่วมมือกัน “ หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง ” ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ทำให้มีความหวังว่า โลกของเราจะผ่านพ้นวิกฤตจากมหันตภัยโลกร้อนได้ โดยทุกคนลงมือทำทันทีอย่างมุ่งมั่นและถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อโลกที่เราอาศัยอยู่และเพื่อลูกหลานที่รักของเรา “ ทุกคนมีความรู้ ทุกคนได้รับผลกระทบ รู้แล้วทำไมไม่นำมาปฏิบัติ ” ดังนั้น เมื่อมีความรู้ ความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาโลกร้อนแล้ว เราควรตระหนักร่วมกันในการแก้ปัญหา ซึ่งคำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลกของประเทศไทยได้กำหนดเพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องชัดเจน เพื่อให้คนไทยนำไปร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน คือ “หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง” ซึ่งจะเห็นได้ว่าการดำเนินชีวิตพอเพียงตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทยนั้น สามารถน้อมนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน ประเทศและโลก ด้วยสาเหตุดังกล่าว ปัจจุบันองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ภาครัฐและภาคเอกชน จึงได้หันมาให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนกันมากขึ้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแป-ระใต้ ได้ดำเนินโครงการสาธารณสุขรวมใจรณรงค์ลดโลกร้อน ด้วยการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการนวัตกรรมน้ำหมักชีวภาพลดโรคประชาชนร่วมใจลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียงขึ้น เพื่อให้บุคลากรในองค์กร และประชาชนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อน กระตุ้นให้เห็นความสำคัญและสาเหตุของปัญหา เกิดจิตสำนึกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมทั้งวิธีการลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น โดยมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำหลักการวิถีพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และมีการขยายผลการดำเนินงานสู่ชุมชน แม้ว่าจะไม่สามารถหยุดภาวะโลกร้อนนี้ได้ แต่อาจชะลอปรากฏการณ์โลกร้อนให้ช้าลง

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. ๑. เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ปัญหาสภาวะโลกร้อน และวิธีการลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

๑. ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ เรื่องปัญหาสภาวะโลกร้อน เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญในการร่วมกันลดภาวะโลกร้อน ๒. ประชาชนมีความรู้เรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพน้ำยาเอนกประสงค์ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ๓. สามารถลดการสร้างมลพิษและปริมาณการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวันได้ ๔. มีเครือข่ายแกนนำลดโลกร้อนในองค์กรและชุมชน

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น