โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในพื้นที่ ม. 7ตำบลกรงปินังอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา ประจำปี 2565
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในพื้นที่ ม. 7ตำบลกรงปินังอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา ประจำปี 2565 |
รหัสโครงการ | 14/2565 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลกรงปินัง |
วันที่อนุมัติ | 28 มกราคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ธันวาคม 2565 |
งบประมาณ | 27,475.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวมารีแย สะอะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกรงปินัง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย พบว่าความชุกของผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ และโรคเบาหวานในประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มของความชุกจะไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่พบว่าผู้ป่วยทั้งเบาหวาน และความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้นทั้งภาวะแทรกซ้อนหลอดเลือดสมอง ภาวะแทรกซ้อนหลอดเลือดหัวใจ และภาวะแทรกซ้อนทางไต โดยเฉพาะภาวะแทรกซ้อนทางไตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากสาเหตุจากระยะเวลาในการเจ็บป่วยที่นานขึ้นแล้ว การเข้าถึงบริการ และคุณภาพการบริการก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพ จากการวินิจฉัยที่ถูกต้องทันเวลาและให้การรักษาส่งต่อที่เหมาะสม และปัจจัยเสียงที่เพิ่มขึ้นพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยหลักร่วมต่อการเกิดโรคเรื้อรัง คือ การสูบบุหรี่ การบริโภคแอลกอฮอล์ การบริโภคอาหารผักและผลไม้ไม่เพียงพอ บริโภคไขมันและโซเดียมเกิน ภาวะอ้วน และการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย ไม่เพียงพอ สำหรับสาเหตุของความดันโลหิตสูงนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย นั่นคือ ทานอาหารไม่มีคุณภาพ มันๆทอดๆ เค็ม ขาดการออกกำลังกาย ที่เพียงพอ น้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เครียด อายุมากขึ้นฯลฯ ความดันโลหิตสูงไม่แสดงอาการเช่นเดียวกับเบาหวานแต่ที่พบทั่วไปคือ ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย ส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงเช้า นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวใจสั่น เหนื่อยง่าย เลือดกำเดาออก ปัสสาวะเป็นเลือด ตาพร่ามัว เป็นต้นแม้ความดันโลหิตสูงจะดูเหมือนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอื่น ๆ มากกว่าเป็นตัวโรคเสียเอง ผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงจึงควรดูแลสุขภาพตัวเองปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงและควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ข้อควรปฏิบัติจึงได้แก่ (1) การบริโภคอาหารที่มีคุณภาพและรักษาน้ำหนักไม่ให้มากเกินไปหลีกเลี่ยงอาหารมัน ทอด รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นที่สำคัญคือ งดอาหารเค็ม (2) บริหารความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ (3) ออกกำลังกายอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ (4) งดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ (5) ในกรณีผู้ป่วยที่ต้องกินยาลดความดันเนื่องจากความดันโลหิตสูงไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพียงใช้ยาควบคุมอาการ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดในอวัยวะต่างๆ ดังนั้น จึงควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรงดยาโดย ไม่ปรึกษาแพทย์รับมืออย่างไรกับภัยเงียบทั้งเบาหวานและความดันสูงโลหิตต่างเป็นภาวะผิดปกติเรื้อรัง รักษาไม่หาย ที่ส่งผลสะเทือนต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆ อย่างเงียบงัน แม้จะมีการประกาศให้วันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปีเป็น วันความดันโลหิตสูงโลก และวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น วันเบาหวานโลก แล้วก็ตาม เสียงป่าวร้องให้ระวังภัยทั้งสองปัจจัยเสี่ยง ก็ยังคงดูเหมือนเป็นเสียงเตือนแว่วๆ ในหมู่ประชาชนคนไทย ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ กระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าภาพ ได้จัดให้มีโครงการรณรงค์คัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงฯ ทำการตรวจสุขภาพเชิงรุกให้กับประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อคัดกรองหาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 จําแนก เป็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วย และกลุ่มป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน เพื่อสร้างกระแสตื่นตัวให้ประชาชนทราบภาวะสุขภาพและปัจจัยเสี่ยง ส่งผลถึงการตัดสินใจปฏิบัติการลดปัจจัยเสี่ยงที่เหมาะสมและต่อเนื่อง15 อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ “ฆาตกร” เงียบทั้งสองชนิดหมดความหมายคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน ให้สมดุล สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่อย่างไม่เป็นภัยกับร่างกาย โดยการใส่ใจเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจดูแลระดับความตึงเครียดทางอารมณ์และจิตใจ และหากร่างกายมีความผิดปกติ ต้องเอาใจใส่และเท่าทันต่อสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากนั้นรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาอย่างทันท่วงที เพียงเท่านี้ ชีวิตเราก็คงจะเดินคนละเส้นทางกับ “ฆาตกร” เงียบทั้งสอง ดังนั้น กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลกรงปินังได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคด้วยหลัก 3อ 2ส จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในพื้นที่ ม.7ตำบลกรงปินัง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา ปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดอ้วน ป้องกันโรค ด้วยหลัก 3อ 2ส เน้นออกกำลังกาย การบริโภคอาหาร ที่ถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งเป็นแบบอย่างในการออกกำลังกายแก่ประชาชน ตลอดจนเป็นผู้มีสุขภาพอนามัยที่ดีร่างกายและจิตใจ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูงมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันโรค
|
1.00 | |
2 | 2. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงและควบคุม ป้องกันโรคด้วยหลัก 3อ 2 ส อย่างถูกต้องและเหมาะสม
|
1.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | ก.ค. 65 | ส.ค. 65 | ก.ย. 65 | |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | กิจกรรมที่ 1 จัดเวทีประชาคมสำหรับแกนนำสุขภาพ ประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างนโยบายและมาตรการในการดูแลสุขภาพ เพื่อลดกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ในชุมชน ม.7 ตำบลกรงปินัง(1 ก.ค. 2565-30 ก.ย. 2565) | 11,500.00 | ||||
2 | กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมอบรมให้ความรู้ เรื่อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้หลัก 3อ. 2ส. และการประเมินสุขภาพและการการดูสุขภาพเบื้องต้น(1 ก.ค. 2565-30 ก.ย. 2565) | 13,300.00 | ||||
3 | กิจกรรมที่ 3 จัดกิจกรรม ติดตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้หลัก 3อ. 2ส ในกลุ่มเสี่ยง ที่จะเกิดความดันโลหิตสูง เบาหวาน ทุกสัปดาห์ 3 ครั้ง(1 ก.ค. 2565-30 ก.ย. 2565) | 1,800.00 | ||||
รวม | 26,600.00 |
1 กิจกรรมที่ 1 จัดเวทีประชาคมสำหรับแกนนำสุขภาพ ประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างนโยบายและมาตรการในการดูแลสุขภาพ เพื่อลดกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ในชุมชน ม.7 ตำบลกรงปินัง | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 100 | 11,500.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | จัดเวที่ประชาคมสำหรับแกนนำสุขภาพ | 100 | 11,500.00 | - | ||
2 กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมอบรมให้ความรู้ เรื่อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้หลัก 3อ. 2ส. และการประเมินสุขภาพและการการดูสุขภาพเบื้องต้น | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 100 | 13,300.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | อบรมให้ความรู้ | 100 | 13,300.00 | - | ||
3 กิจกรรมที่ 3 จัดกิจกรรม ติดตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้หลัก 3อ. 2ส ในกลุ่มเสี่ยง ที่จะเกิดความดันโลหิตสูง เบาหวาน ทุกสัปดาห์ 3 ครั้ง | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 30 | 1,800.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | ติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม | 30 | 1,800.00 | - | ||
- ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง มีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
- อัตราป่วยรายใหม่โรคเบาหวานความดันโลหิตสูง ลดลงจากปี 2564
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565 12:12 น.