โครงการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังกรณี โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน รพ.สต.บ้านจันนา
ชื่อโครงการ | โครงการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังกรณี โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน รพ.สต.บ้านจันนา |
รหัสโครงการ | 66-50105-01-06 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านจันนา |
วันที่อนุมัติ | 20 ธันวาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2565 - 30 สิงหาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,290.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายโชคชัย เสนเผือก |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 303 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 130 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 12.15 | ||
2 | ร้อยละของประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 13.15 | ||
3 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (CVA) | 1.93 | ||
4 | ร้อยละของผู้ป่วยที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ขึ้น จอประสาทตา แผล ไตวาย | 14.32 | ||
5 | ประชาชนกลุ่มอายุ 35 ปี ขึ้นไปไม่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง | 404.00 | ||
6 | ประชาชนกลุ่มอายุ 35 ปึขึ้นไป ไม่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน | 433.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้สภาพปัญหาทางสุขภาพเปลี่ยนไปด้วย ปัจจุบันแนวโน้มปัญหาสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้นจากสาเหตุโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือดโรคเหล่านี้เป็นปัญหาที่สำคัญระดับประเทศและระดับโลกซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นสถานการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในปี 2552 ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีจำนวน 108 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น 422 ล้านคน ในปี 2557 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 1.5 ล้านคน นอกจากนี้ ยังพบว่าประชากรทั่วโลกที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.7 เป็นร้อยละ 8.5 หรือเมื่อเปรียบเทียบแล้ว พบว่า ปัจจุบันประชากรวัยผู้ใหญ่ 1 ใน 11 คนป่วยเป็นโรคเบาหวาน ส่วนในประเทศไทย จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า อัตราตายด้วยโรคเบาหวานต่อประชากรแสนคน ในภาพรวมของประเทศในปี 2556 - 2558 เท่ากับ 14.93, 17.53 และ 17.83 ตามลำดับ เห็นได้ว่า อัตราการตายด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นทุกปี และจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายในประชากรไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป ครั้งที่ 3, 4 และ 5 (ปี 2547, 2552 และ 2557) พบว่า ความชุกของโรคเบาหวาน ของครั้งที่ 3 ร้อยละ 7 ใกล้เคียงกับครั้งที่ 4 ร้อยละ 6.9 ส่วนครั้งที่ 5 เพิ่มสูงขึ้นเป็น ร้อยละ 8.8 (คิดเป็น 4.8 ล้านคน)นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2551 ยังพบว่าประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายผู้ป่วยนอกในการรักษาพยาบาลโรคเบาหวานเฉลี่ย 1,172 บาทต่อราย ส่วนผู้ป่วยในค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 10,217 บาทต่อราย รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้น 3,984 ล้านบาทต่อปี หากคนไทยป่วยด้วยโรคเบาหวาน รวม 3 ล้านคนต่อปี มารับบริการที่สถานพยาบาล จะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้นประมาณ 47,596 ล้านบาทต่อปี
จังหวัดพัทลุงมีอัตราตายของผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 3.95 อำเภอควนขนุนมีอัตราตาย ร้อยละ 4.39 และ มีแนวโน้มผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงขึ้นทุกๆปี จากสถิติตั้งแต่ 2561 – 2565ความชุกของผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังนี้ 4.615, 5.158, 5.483, 5.481 ต่อแสนประชากร ตามลำดับจากสถิติการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของประชากรกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป รพ.สต.บ้านจันนา ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุนจังหวัดพัทลุง ปี 2565 คัดกรองโรคเบาหวานกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปดำเนินการคัดกรอง จำนวน 1,221 คนพบว่า กลุ่มแฝง/เสี่ยง จำนวน 284 คน ร้อยละ 23.26 และกลุ่มสงสัยเป็นโรค จำนวน 26คน ร้อยละ 2.13 คัดกรองโรคความดันโลหิต กลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1,073 คน พบกลุ่มแฝง/เสี่ยงจำนวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 5.59 กลุ่มสงสัยเป็นโรค จำนวน 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.05 การที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทำให้ประเทศชาติสูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนไม่เป็นโรคเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเพราะจะทำให้ประชาชนสุขภาพชีวิตที่ดีและไม่สูญเสียงบประมาณในการดูแลการเจ็บป่วยดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนไม่เป็นโรคเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเพราะจะทำให้ประชาชนสุขภาพชีวิตที่ดีและไม่สูญเสียงบประมาณในการดูแลการเจ็บป่วย แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน และการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเมื่อเกิดเป็นโรคแล้วจึงเป็นทางเลือกที่ดี การป้องกันและควบคุมโรคซึ่งสามารถกระทำได้ทั้งการส่งเสริมสุขภาพด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระดับบุคคลครอบครัวและชุมชน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ร้อยละของประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ลดลง |
12.15 | 10.00 |
2 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงลดลง |
13.15 | 10.00 |
3 | 3 เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (CVA) ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (CVA) ลดลง |
1.93 | 10.00 |
4 | 4. เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เข่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา แผล ไตวาย ร้อยละของผู้่ป่วยเบาหวานที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา แผล ไตวาย ลดลง |
14.32 | 5.00 |
5 | 5.เพื่อคัดกรองความดันโลหิตสูงในประชาชนที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป ที่ยังไม่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ประชาชนที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป ที่ยังไม่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการคัดกรอง |
404.00 | 98.00 |
6 | 6. เพื่อคัดกรองโรคเบาหวานในประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ป่วยด้วยโดยโรคเบาหวาน ประชาชนที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป ยังไม่ป่วยด้วยโรคเบาหวานได้รับการคัดกรอง |
433.00 | 98.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,290.00 | 4 | 15,290.00 | |
1 ต.ค. 65 - 31 ก.ค. 66 | คัดกรองคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในประชากรกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป | 0 | 15,290.00 | ✔ | 15,290.00 | |
1 ก.พ. 66 - 31 มี.ค. 66 | กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามหลัก 3 อ 2 ส | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 ก.พ. 66 - 31 มี.ค. 66 | ติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 เม.ย. 66 - 31 ส.ค. 66 | กิจกรรมเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยการเจาะเลือดส่งตรวจประจำปี เพื่อติดตามค่า HbA1Cตรวจ Fundus Camera เท้า ด้วย MOnofilament | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 |
ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ของ รพ.สต บ้านจันนาทั้งกลุ่มปกติ และกลุ่มป่วย ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคไม่ติดต่่อเรื้อรัง โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2565 14:28 น.