โครงการการดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในยุคหลังการระบาดของโรค Covid-19
ชื่อโครงการ | โครงการการดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในยุคหลังการระบาดของโรค Covid-19 |
รหัสโครงการ | 2566-L7161-3-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ |
วันที่อนุมัติ | 27 ธันวาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 19 มกราคม 2566 - 29 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ตุลาคม 2566 |
งบประมาณ | 341,618.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายทวีป จิรรัตนโสภา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.769516,101.069631place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ)
การก้าวสู่สังคมสูงวัยของประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีนิยามที่แตกต่างดันตามบริบทการดำเนินชีวิต โดยกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ใช้เกณฑ์ผู้สูงอายุ คือ 65 ปีขึ้นไป สำหรับประเทศไทยใช้เกณฑ์ผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 มาตรา 3 นิยามผู้สูงอายุ คือ บุคคลที่มีอายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป จากสถิติผู้สูงอายุของกรมกิจการผู้สูงอายุย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ.2562-2564) พบว่า มีจำนวนผู้สูงอายุ 11,136,059 คน11,627,130 คน และ 12,241,542 คน ตามลำดับ (กรมกิจการผู้สูงอายุ, 2564)เมื่อพิจารณาพบแนวโน้มผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางสังคมส่งผลกระทบต่อ ระบบการดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน เนื่องจากผู้สูงอายุมีความเปลี่ยนแปลงจากการเสื่อม ถอยของระบบต่างๆภายในร่างกาย และมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ จากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และการสูญเสียความสามารถในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุจึงมีความต้องการและความจำเป็นในการช่วยเหลือดูแลสุขภาพมากกว่าวัยอื่นๆ (World Health Organization, 2019)
จากการสำรวจ สวัสดิการและอนามัย พ.ศ. 2564 โรคที่พบบ่อย 5 ลำดับในกลุ่มผู้สูงอายุได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคเบาหวาน และความผิดปกติของต่อมไร้ท่อฯ กลุ่มโรคเรื้อรังของระบบหายใจ กลุ่มโรคความผิดปกติทางกระดูกและกล้ามเนื้อ และกลุ่มโรคความผิดปกติทางระบบย่อยอาหาร (สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, 2564) และยังพบปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการพึ่งพาตนเอง เช่น การพลัดตกหกล้ม ภาวะสมองเสื่อม ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น ซึ่งภาวะดังกล่าวนี้เป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียงและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ครอบครัว รวมทั้งชุมชน โดยเฉพาะช่วงหลังการระบาดของโรค Covid-19 ที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั้งด้านสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตที่ทำ ให้ทุกคนรวมทั้งผู้สูงอายุต้องปรับตัวจากการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมเป็นแบบชีวิตวิถีปกติใหม่และกำลังก้าวสู่ ยุคปกติถัดไป โดยข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565 พบว่า ผู้สูงอายุติดเชื้อสะสม จำนวน 170,861 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (กรมกิจการผู้สูงอายุ, 2565) ดังนั้นระบบการดูแลสุขภาวะ และคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาวะที่สอดคล้องกับ บริบทสังคมสูงอายุในยุคปกติถัดไป
จากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบให้ผู้สูงอายุต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตหลายด้านให้ สอดคล้องกับบริบทยุคปัจจุบัน ที่เน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดการสัมผัสโรค ประกอบด้วย 10 ด้าน ได้แก่ ด้านอาหาร ด้านที่อยู่อาศัย ด้านยานพาหนะ (Smart Vehicle) ด้านการสื่อสารด้วยการใช้โซเชียลมีเดียด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ด้านการเงิน ด้านเครื่องนุ่งห่ม ด้านยา ด้านพลังงาน และด้านโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) รายละเอียดดังนี้
1) ด้านอาหาร ปรับเปลี่ยนจากการรับประทานอาหารตามความต้องการเป็นเน้นการรับประทาน อาหารที่ดีต่อสุขภาพและไม่ก่อให้เกิดผลเสียระยะยาว เช่น การรับประทานอาหารคลีน ผักปลอดสารพิษ อกไก่ เนื้อปลาขนมปังโฮลวีทผสมธัญพืช เป็นต้น
2) ด้านที่อยู่อาศัย บ้านหรือที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีผ่านฟังก์ชันต่างๆใน Smart home เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยภายในบ้าน เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดการสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านด้วยระบบเสียง การใช้หุ่นยนต์ทำสวน (Rachio) การติดตั้งกล้อง วงจร ปิดในการรักษาความปลอดภัย และหลอดไฟเปิด-ปิดอัตโนมัติ เป็นต้น
3) ด้านยานพาหนะ (Smart Vehicle) ยานพาหนะมีความเปลี่ยนแปลงจากยานพาหนะที่ใช้น้ำมัน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ และรถสาธารณะเป็นยานยนต์ไร้คนขับ และยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถยนต์ ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า หรือรถเมล์ไฟฟ้า
4) ด้านการสื่อสารด้วยการใช้โซเชียลมีเดีย ระบบโซเชียลมีเดียมีการปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ใหม่ๆที่ มีความดึงดูดผู้ใช้งานเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ซึ่งการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนและผู้สูงอายุมีความ จำเป็นต้องสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น
5) ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค แนวโน้มการเลือกใช้สินค้าเปลี่ยนแปลงจากความนิยมสินค้าที่ปรุงแต่งสังเคราะห์เป็นสินค้าที่ผลิตจากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่งเป็นสูตร Natural หรือ Organic แทน เนื่องจาก กระแสความนิยมเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตนเอง
6) ด้านการเงิน การใช้จ่ายเงินมีความเปลี่ยนแปลงจากการจ่ายเงินสดเป็นการใช้จ่ายผ่านระบบ e-Payment เพื่อความสะดวกและสอดคล้องกับบริบทของการดำเนินชีวิตปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยรูปแบบ emoney, Card Payment และ Internet & Mobile Banking เป็นต้น
7) ด้านเครื่องนุ่งห่ม จากการดำเนินชีวิตที่มีมุมมองและความพยายามใช้ชีวิตควบคู่กับการรักษา สิ่งแวดล้อมเพื่อลดภาวะโลกร้อน จึงมีความเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องนุ่งห่มจากวัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตจากใย สังเคราะห์มาเป็นวัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้านยา แนวโน้มการรักษาสุขภาพปรับเปลี่ยนเป็นการรับประทานยาหรืออาหารเสริมเพื่อ ชะลอความเสื่อม ส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค แทนการรับประทานยาเพื่อการรักษาโรคเพียงอย่างเดียว
9) ด้านพลังงาน การใช้พลังงานปรับเปลี่ยนจากการใช้พลังงานที่หมดไป ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซ ธรรมชาติเป็นพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิง ขยะ
10) ด้านโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันทั้งการสื่อสาร การศึกษา การซื้อสินค้า การเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ การเดินทาง เป็นต้น
ความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในยุคปกติใหม่ข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมทุกๆ ด้าน ทั้งด้านปัจจัย 4 ด้านรูปแบบการดำรงชีวิต ด้านการสื่อสาร ดังนั้นผู้สูงอายุจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันเพื่อให้สามารถเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและปรับวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับบริบทยุคปกติถัดไปเพื่อให้เกิดสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีรวมทั้งมีชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน (ปริญญาภรณ์ ธนะบุญปวง. วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต,2565)
ผู้สูงอายุเทศบาลเมืองเบตง ประสบกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับข้อมูลข้างต้น โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโรค Covid-19 ที่ส่งผลต่อสุขภาพกาย ไม่ว่าจะเป็นด้านโรคภัยการเข้าถึงรักษา การเคลื่อนไหวร่างกายน้อย การโภชนาการที่อาหารมีจำกัดไม่สามารถออกไปจับจ่ายซื้อหาได้อย่างสะดวก และสุขภาพจิต การขาดความปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล สังคมขาดทักษะที่สร้างความสัมพันธ์ทันยุคสมัย เช่น ไลน์ (Line) เฟซบุ๊ก (Facebook) และ ติ๊กต็อก (TikTok) อินสตาแกรม (Instagram) ทวิตเตอร์ (Twitter) และแบบออฟไลน์ที่ต้องเดินทางไปพบปะกันตาม สถานที่ต่างๆ ในชุมชน ปัญหาเหล่านี้จึงส่งผลต่อเนื่องแม้ปัจจุบันรัฐบาลจะประกาศให้โรค Covid-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้วก็ตาม
ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองเบตง ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงจัดทำโครงการการดูแลสุขภาวะและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในยุคหลังการระบาดของโรค Covid-19 โดยใช้กลยุทธิ์หลักการ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว สร้างการเรียนรู้ในยุคปกติถัดไปจากการระบาดของโรค Covid-19 ด้วยกระบวนการให้ความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย แก่ผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ(ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง อนึ่งการดำเนินงานดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขในการดำรงชีวิตประจำวัน มีภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันโรคในยุคปกติต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ผู้สูงอายุที่เข้ารับการอบรมมีความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ(ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ผู้สูงอายุที่เข้ารับการอบรมมีความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ(ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 80 |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ผู้สูงอายุที่เข้ารับการอบรมมีสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนวัยเดียวกัน มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขในการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม ร้อยละ 80 ผู้สูงอายุที่เข้ารับการอบรมมีสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนวัยเดียวกัน มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขในการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม |
0.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | ม.ค. 66 | ก.พ. 66 | มี.ค. 66 | เม.ย. 66 | พ.ค. 66 | มิ.ย. 66 | ก.ค. 66 | ส.ค. 66 | ก.ย. 66 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | จัดเตรียมโครงการ(19 ม.ค. 2566-31 ม.ค. 2566) | 5,400.00 | ||||||||||
2 | กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย แก่ผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ(ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่การสร้างบรรยากาศความสุข (จำนวน 30 ครั้ง)(20 ม.ค. 2566-29 ก.ย. 2566) | 336,218.00 | ||||||||||
รวม | 341,618.00 |
1 จัดเตรียมโครงการ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 0 | 5,400.00 | 1 | 3,900.00 | |
26 ม.ค. 66 - 1 ก.พ. 66 | จัดซื้อ จัดจ้างวัสดุ | 0 | 5,400.00 | ✔ | 3,900.00 | |
2 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย แก่ผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ(ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่การสร้างบรรยากาศความสุข (จำนวน 30 ครั้ง) | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 60 | 336,218.00 | 30 | 328,968.00 | |
2 ก.พ. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการอาหารเป็นยาสำหรับผู้สูงอายุ (ครั้งที่1) | 60 | 11,520.00 | ✔ | 11,500.00 | |
9 ก.พ. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่2) | 0 | 11,520.00 | ✔ | 11,848.00 | |
16 ก.พ. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่3) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 11,848.00 | |
23 ก.พ. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่4) | 0 | 11,520.00 | ✔ | 12,062.00 | |
2 มี.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่5) | 0 | 11,090.00 | ✔ | 12,000.00 | |
9 มี.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่6) | 0 | 11,520.00 | ✔ | 11,360.00 | |
16 มี.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่7) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 10,500.00 | |
23 มี.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่8) | 0 | 12,125.00 | ✔ | 11,500.00 | |
30 มี.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่9) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 10,500.00 | |
27 เม.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่10) | 0 | 12,125.00 | ✔ | 11,800.00 | |
11 พ.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่11) | 0 | 11,520.00 | ✔ | 10,500.00 | |
18 พ.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่12) | 0 | 12,125.00 | ✔ | 10,750.00 | |
25 พ.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่13) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 10,500.00 | |
1 มิ.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่14) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 11,800.00 | |
8 มิ.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่15) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 10,500.00 | |
15 มิ.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่16) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 10,500.00 | |
22 มิ.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่17) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
29 มิ.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่18) | 0 | 12,125.00 | ✔ | 10,500.00 | |
6 ก.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่19) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
13 ก.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่20) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 10,500.00 | |
20 ก.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่21) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 10,500.00 | |
27 ก.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่22) | 0 | 11,085.00 | ✔ | 10,500.00 | |
3 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่23) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
10 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่24) | 0 | 11,518.00 | ✔ | 13,000.00 | |
17 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่25) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
24 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่26) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 10,500.00 | |
31 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่27) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
7 ก.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่28) | 0 | 11,250.00 | ✔ | 10,500.00 | |
21 ก.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่29) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
25 ก.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ และอบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองเบตง(ครั้งที่30) | 0 | 10,500.00 | ✔ | 10,500.00 | |
- ผู้สูงอายุมีความรู้และทักษะในการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ (ปัญญา) ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
- ผู้สูงอายุมีสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนวัยเดียวกัน มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขในการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม
- โรงเรียนผู้สูงอายุมีนวัตกรรมด้านสุขภาพ และผู้สูงอายุสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 00:00 น.