โครงการชุมชนร่วมใจ ห่างไกลโรคเรื้อรัง ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ปี ๒๕๖๑
ชื่อโครงการ | โครงการชุมชนร่วมใจ ห่างไกลโรคเรื้อรัง ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ปี ๒๕๖๑ |
รหัสโครงการ | 61-50114-1-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สาธารณสุขอำเภอ แว้ง |
วันที่อนุมัติ | 16 ตุลาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2560 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 75,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.831,101.834place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือที่เรียกว่า โรควิถีชีวิต 5 โรค ได้แก่ โรคเบาหนาวเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็.เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญระดับโลก ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องมาจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมส่งผลต่อวิธีชีวิตและก่อให้เกิดพฤติกรรมการสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล(ทานหวาน มัน เค็มมากเกินไปและทานผักผลไม้น้อยไป) การเคลื่อนไหวทางกายน้อย การบริโภคยาสูบ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เป็นอันตราต่อสุขภาพ รวมถึงภาวะเครียด ซึ่งหากไม่สามารถหยุดพฤติกรรมดังกล่าวจะส้งผลให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรควิถีชีวิตพิการ และเสียชีวิตตามมา นอนจากนี้ ยังสร้างภาวะค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจตามมาอย่างมหาศาล จากรายงานสถิติสุขภาพทั่วโ,กปี พ.ศ.2560 ขององค์การอนามัยโลกพบว่า 1 ใน 10 ของประชาชนในวัยผู้ใหญ่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและ 1 ใน 3 มีภาวะความดันโลหิตสู.นอกจากนี้พบว่าประมาณร้อยละ 56 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลกเกิดจากวิถีชีวิตสำหรับประเทศไทยจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 3 พ.ศ. 2559-2560 พบว่า ความชุกของโรคเบาหวานเป็นร้อยละ 40 ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยมาก่อนและมีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่ไม่ได้รับการรักษา ร้อยละ 7-8 จังหวัดนราธิวาสพบผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 19543 คน คิดเป็นอัตราป่วย 6539.27/แสนประชากร อำเภอแว้งมีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 1928 คน คิดเป็นอัตราป่วย 3575.20/แสนประชากร ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 4132 คน คิดเป็นอัตราป่วย 7752.78/แสนประชากร ซึ่งพบว่าโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมีอัตราการรับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกสูงเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ในปี 2560 ผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับ HbA1c
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม ร้อยละ 90 ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ |
1.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถคุมระดับน้ำตาลได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าร้อยละ40 |
1.00 | |
3 | เพื่อให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถคุมระดับความดันโลหิตได้ดี ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถคุมระดับความดันโลหิตได้มากกว่าร้อยละ 60 |
1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 60,000.00 | 0 | 0.00 | |
กิจกรรมคัดกรองตามกระบวนการปิงปองจราจร 7 สี เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 12 ครั้ง | 0 | 0.00 | - | |||
การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ตามรูปแบบปิงปองจราจร 7 สีโดยเน้นกิจกรรม 3 อ 2 ส | 0 | 60,000.00 | - |
๑. ดำเนินการตามกิจกรรมปิงปองจราจรเจ็ดสี ดังนี้ ๑.๑ จัดกิจกรรมโรคความดันและเบาหวานในกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรมเดือนละ ๑ ครั้ง ๑.๒ ติดตามเยี่ยมการดำเนินงานของแต่ละศูนย์ฯ โดยทีมงานคณะกรรมการปีละ ๔ ครั้ง ๑.๓ สรุปผลและจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
1.ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มสีส้มและสีแดงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน 2.มีระบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2560 10:47 น.