โครงการเสริมสร้างความรู้ผู้สูงอายุป้องกันภาวะสมองเสื่อม
ชื่อโครงการ | โครงการเสริมสร้างความรู้ผู้สูงอายุป้องกันภาวะสมองเสื่อม |
รหัสโครงการ | 66-L7885-1-10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองยะกัง 2 โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ |
วันที่อนุมัติ | 11 มกราคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 9,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูรฟาดีละห์ มะเด็ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการเปลี่ยนแปลงระบบโครงสร้างของประชากรผู้สูงอายุ พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาด ๒๕๖๖ ประเทศโทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (ประชากรอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ ๒๐) ทั้งนี้เนื่องจากผู้สูงอายุนั้นมีความเสี่ยงสูงในต้านความเจ็บป่วยเมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพร่างกายอ่อนแอลง มีความร่างกายมากขึ้น จากกรายงานของกลุ่มทำงานต้านสมองเสือมในเขตภาคฟื้นเอเชียแปซิฟิก สรุปได้ว่า ในปี ๒๕๔๘ มีผู้ป่วยสมองเสื่อมในภูมิภาคนี้มากถึง ๑๓.๗ ล้านคน และจะเพิ่มเป็น ๖๔.๖ ล้านคนในอีก ๕๐ ปี ข้างหน้าในประเทศไทยจำนวนผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ มีจำนวน ๖๑๗,๐๐๐ คน และคาดว่าในปี พ.ศ. โรคสมองเสื่อมนอกจากจะทำให้สูญเสียความคิด ความจำ และความสามารถในการงานการตัดสินใจแล้วยังพบว่ามีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ดูแลและครอบครัวของผู้ป่วยในการดูแลผู้ปวยสมองเสื่อม ๑ คน อย่างครอบคลุม และมีคุณภาพ ต้องใช้ผู้ดูแลอย่างน้อย ๒ คน นำมาสู่ปัญหาค่ใช้จ่ายที่สูงมาก หากญาติในครอบครัวเป็นผู้ดูแลกันเองจะมีค่าดูแล ประมาณ ๔,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาทต่อเดื้อน ทั้งนี้ยังไม่ร่วมคำใช้จ่ายทางอ้อมของผู้ดูแล เช่น ต้องสาออกจากงานมาดูแล ค่าเสียโอกาส ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของผู้ดูแลและผู้ป่วยเอง ปัจจุบันยังไม่มียาที่รักษาอาการสมองเสื่อมได้ มีเพียงตัวยาที่ทำให้เกิดการชะลออาการเท่านั้น แต่มีวิธีป้องกันที่เห็นผลได้คือ การควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และการออกกำลังกายซึ่งจะชะลอการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ และสามารถฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมไปแล้วให้ดีขึ้นได้ ๒๕๘๐ จะมีจำนวน ๑,๓๕๐,๐๐๐ คน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม 2.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีทักษะในการดูแลตนเองป้องกันภาวะสมองเสื่อม 3.เพือให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์
|
||
2 | ๑. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม ๒.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีทักษะในการดูแลตนเองป้องกันภาวะสมองเสื่อม ๓. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
1.ผู้สูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม
2.ผู้สูงอายุมีทักษะในการดูแลตนเองป้องกันภาวะสมองเสื่อม
3.ผู้สูงอายุได้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2566 13:55 น.