โครงการสูงวัย ยิ้มสวยใส ใส่ใจช่องปาก
ชื่อโครงการ | โครงการสูงวัย ยิ้มสวยใส ใส่ใจช่องปาก |
รหัสโครงการ | 66-L4139-2-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมรักษ์สุขภาพ |
วันที่อนุมัติ | 3 มีนาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2566 - 29 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 21,930.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ประทิ่น หลักทรัพย์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลยุโป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.597,101.283place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ผู้สูงอายุนับเป็นกลุ่มประซากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมไทยที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยข้อมูลปี 2563 ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 12.6 ล้านคนจากจำนวนประชากรรวม 66 ล้านคน โดยคิดเป็นร้อยละ 19.1 ของประชากรรวม และคาตว่า ในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) คือ มืประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 20 ของประขากรทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เพื่อลตผลกระทบต่อสุขภาพ สุขภาพช่องปากถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญกับสุขภาพทางด้านร่างกาย อาทิ การสูญเสียฟันจำนวนมากจะลดประสิทธิภาพการเคี้ยวอาหาร ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร การดำเนินชีวิตประจำวันและสุขภาพจิต เป็นต้น ดังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ความว่า "เวลาไม่มีฟันกินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีใจก็ไม่สบายร่างกายก็ไม่แข็งแรง " จากรายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศไทย พ.ศ. 2560 ในกลุ่มอายุ 60 ปี ขึ้นไป พบว่าร้อยละ 56.1 ของผู้สูงอายุ มีฟันอยู่ในสภาพใช้งานได้ 20 ซี่ และผู้สูงอายุมีฟันแท้คู่สบ 4 คู่ ขึ้นไป ร้อยละ 40.2 ทำให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวอาหารลดลงชัดเจน แม้ว่ากลุ่มผู้สูงอายุตอนตันจะมีจำนวนมากกว่าครึ่ง มีฟันถาวร 20 ขี่ แต่ฟันถาวรที่เหลือนั้นยังมีปัญหารอยโรคและความผิดปกติในช่องปากที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการลุกลามที่นำไปสู่ความเจ็บปวดและการสูญเสียฟัน ปัญหาที่สำคัญได้แก่ การสูญเสียฟันโดยเฉพาะการสูญเสียฟันทั้งปากในผู้สูงอายุ 60-74 ปี พบร้อยละ 8.7 แต่เมื่ออายุ 80 85 ปี เพิ่มสูง ถึงร้อยละ 31.0 ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตด้านการบดเคี้ยวอย่างมาก และจากกการสำรวจสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ หมู่ 4,5และ6 ตำบลยโปอำเภอเมือง จังหวัดยะลา จำนวน 424 คน พบว่า ผู้สูงอายุมีฟันแท้ใช้งานได้ 20 ซี่ขึ้นไป ร้อยละ 11.08 เมื่อเทียบกับเป้าหมายทันตสุขภาพแห่งชาติ และรายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ.2560 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และผู้สูงอายุยังขาดความรู้ความเข้าใจ และการปฏิบัติตัวในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองอย่างเหมาะสม อันจะนำไปสู่การสูญเสียฟันเมื่ออายุเพิ่มขึ้นดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการลดการสูญเสียฟัน ให้กลุ่มผู้สูงอายุมีฟันใช้เคี้ยวอาหารอย่างเหมาะสมยืดอายุการใช้งานและรู้จักโรคในช่องปาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยามู ได้จัดทำโครงการผู้สูงวัย ยิ้มสวยใส ใสใจช่องปาก เพื่อเป็นการส่งเสริมการดูสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุในเขตรับผิดชอบ ให้มีความรู้เพิ่มขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องโรคในช่องปากและการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง ผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องโรคในช่องปากเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 |
||
2 | 2.เพื่อฝึกทักษะการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุด้วยตนเองอย่างถู฿กต้อง ผู้สูงอายุมีทักษะการดูสุขภาพช่องปากเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 |
1.จัดทำแผนงานโครงการเพื่อเสนอของบประมาณ 2.ประชุมแผนงานโครงการชี้แจงแก่คณะกรรมการและอสม.ทีมคัดกรอง และผู้เกี่ยวข้อง 3. สำรวจกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ จำแนกประเภท โดยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 4.จัดอบรมผู้สูงอายุเรื่องโรคในช่องปากและการดูแลสุขภาพช่องปาก 5.สรุปและประเมินผลการดำเนินงาน
1.ผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องโรคในช่องปากมากขึ้น 2.ผู้สูงอายุมีทักษะการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองอย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 11:55 น.