โครงการครอบครัวชวนเดินวิ่ง สานรัก ปลูกผักกินเอง
ชื่อโครงการ | โครงการครอบครัวชวนเดินวิ่ง สานรัก ปลูกผักกินเอง |
รหัสโครงการ | 66-L3356-2-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลนาท่อม |
วันที่อนุมัติ | 22 มีนาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 19 เมษายน 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 12,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายถาวร คงศรี |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางกชกานต์ คงชู |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาท่อม อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 10 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 10 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 20 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของคนในชุมชนที่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและต่อเนื่อง | 80.00 | ||
2 | ร้อยละของกิจกรรมออกกำลังกายเป็นกิจกรรมสร้างสัมพันธภาพคนในครอบครัวและสังคม | 80.00 | ||
3 | ร้อยละของครอบครัวที่มีการปลูกผักกินเอง | 60.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ตำบลนาท่อม มีจำนวน 1,915 ครัวเรือน ครอบครัวที่ไม่มีกิจกรรมทางกายร่วมกัน 383 ครัวเรือน ครอบครัวที่มีกิจกรรมทางกายร่วมกัน 1,532 ครัวเรือน ด้านสุขภาพขาดการดูแลตนเองเช่นการออกกำลังกายที่เพียงพอของสมาชิกในครอบครัวด้านสภาพแวดล้อมทางสังคมปัจจุบันเป็นสังคมครอบครัวต่างคนต่างอยู่มีโลกส่วนตัวมากขึ้นขาดการพูดคุยสมาชิกในครอบครัว เป็นสังคมออนไลน์มากขึ้น ด้านการศึกษา การช๊อปปิ้งต่างๆ ขาดการมีสัมพันธภาพในครอบครัว จากการเปลี่ยนแปลงทางสถานการณ์สภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ และวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 นำไปสู่ความอ่อนแอทางสังคมในมิติของครอบครัวเพิ่มขึ้นเกิดปัญหาที่ได้รับผลกระทบในทุกระดับของประเทศตลอดถึงครอบครัวในยุคปัจจุบันที่มีรูปแบบแตกต่างและหลากหลายแม้จะมีการช่วยเหลือเยียวยาในเชิงนโยบายแล้วก็ตามสภาพปัญหาของครอบครัวยังเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงในครอบครัวที่เริ่มก่อตัวมาจากเรื่องสัมพันธภาพและการสื่อสารในครอบครัวการอบรมเลี้ยงดูบุตร ปัญหาเด็กผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง หลังโควิด 19 สถานการณ์สังคมครอบครัวที่ปรับเปลี่ยนไปสู่โลกใช้ออนไลน์มากขึ้นในชีวิตประจำวัน การเรียนออนไลน์ซื้อของออนไลน์ สื่อสารออนไลน์มีผลกระทบทั้งบวกและลบมาจากการเกิดโรคระบาดโควิด 19 ทำให้สภาพแวดล้อมต่างๆ เปลี่ยนไป ด้านปัญหาเดิมทียังไม่ถูกแก้ เช่นอบายมุข การพนันบุหรี่ เหล้า สารเสพติดของสมาชิกในครอบครัว การติดเกมส์ท้องก่อนวัยอันควร การออกกำลังกายไม่เพียงพอล้วนส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งของครอบครัว และนำไปสู่ปัญหาทางสังคม เช่น เกิดความรุนแรงในครอบครัว ทะเลาะ พ่อแม่ทุบตีกัน พ่อแม่พูดจาไม่เพราะ เด็กหนีออกจากบ้านตามมานำไปสู่ความอ่อนแอและเป็นครอบครัวเปราะบาง ครอบครัวไม่สามารถดูแลกันเองได้และเด็กหนีจากบ้านไม่ไปโรงเรียน ส่งผลกระทบต่อสังคมด้านเศรษฐกิจพ่อแม่หย่าร้าง แยกกันอยู่เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นหม้าย เป็นครอบครัวเปราะบางในที่สุดหากินคนเดียวเลี้ยงครอบครัวลำบากเป็นหนี้สินประสบปัญหาต้องช่วยกันดูแลภาระของสังคม กลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีกลไกภาครัฐออกมาจำนนวนมากในการจะพัฒนาให้ชุมชนเข้มแข็ง เช่น ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน(ศพค) ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลนาท่อม ได้นำเสนอ โครงการ " ครอบครัวชวนเดินวิ่ง สานรัก ปลูกผักกินเอง"เป็นกิจกรรมทางกายดำเนินการในวันเสาร์เป็นกิจกรรมลักษณะในรูปแบบของค่ายครอบครัวในวันสรุปกิจกรรม โดยระหว่างทางใช้กิจกรรมในแปลงผักกับสมาชิกของครอบครัวที่ปลูกผักแล้วนำกลับมาทำเมนูกินร่วมกันของเด็กๆและครอบครัวตอนปิดโครงการ โดยโครงการจะแก้ปัญหาเด็กไม่กินผัก ครอบครัวขาดสัมพันธภาพระหว่างผู้ปกครองกับเด็กและครอบครัวขาดกิจกรรมทางกาย โดยหลังจากจบโครงการนี้แล้วศูนย์พัฒนาครอบครัวจะนำชุมชนและครอบครัวไปสู่กิจกรรมแก้ปัญหาอื่นๆได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและต่อเนื่องของคนในชุมชน ร้อยละการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและต่อเนื่องของคนในชุมชน |
80.00 | 95.00 |
2 | เพิ่มสมาชิกในครอบครัวที่ปลูกผักกินเองเพิ่มขึ้น ร้อยละของครอบครัวปลูกผักกินเองเพิ่มขึ้น |
60.00 | 70.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและต่อเนื่องของคนในชุมชน |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพิ่มสมาชิกในครอบครัวที่ปลูกผักกินเองเพิ่มขึ้น |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
ไม่ระบุวัตถุประสงค์ |
||||||
22 เม.ย. 66 | สร้างความเข้าใจและออกแบบกิจกรรมของคณะทำงานศูนย์ พัฒนาครอบครัว | 1,100.00 | - | |||
29 เม.ย. 66 | อบรมให้ความรู้ผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการครอบครัวชวนเดินวิ่ง สานรัก ปลูกผักกินเอง ในวันเสาร์ | 3,100.00 | - | |||
29 เม.ย. 66 - 30 ก.ย. 66 | เพิ่มกิจกรรมทางกายโดย เดิน วิ่ง ปั่น ทุกวัน | 0.00 | - | |||
6 พ.ค. 66 - 30 ก.ย. 66 | รณรงค์ และปฏิบัติครอบครัวชวนเดินวิ่ง สานรัก ปลูกผักกินเอง ในวันเสาร์ | 4,800.00 | - | |||
6 พ.ค. 66 - 30 ก.ย. 66 | เพิ่มกิจกรรมทางทางกายโดยการปลูกผักกินเอง | 3,500.00 | - | |||
30 ก.ย. 66 | สรุปกิจกรรมแบบค่ายครอบครัว | 0.00 | - |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
1 สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอและต่อเนื่อง 2 ครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการมีผักที่ปลูกเองไว้กิน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2566 16:13 น.