กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการส่งเสริมความปลอดภัยของเด็กปฐมวัย ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกะทิง จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลทับช้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ทับช้าง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการส่งเสริมความปลอดภัยของเด็กปฐมวัย ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกะทิง

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการส่งเสริมความปลอดภัยของเด็กปฐมวัย ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกะทิง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลทับช้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ 66-L5198-3-1 ระยะเวลาการดำเนินงาน 30 เมษายน 2566 - 30 กันยายน 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 14,098.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ทับช้าง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ปัจจุบันปัญหาการเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองไม่สวมหมวกนิรภัยให้กับเด็กขณะนำเค็กนักเรียนมาส่งที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หากเกิดอุบัติเหตุไม่มีอุปกรณ์อะไรในการป้องกันอุบัติเหตุได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เคีกได้รับการกระทบกระเทือนสมองและอานำไปการเสียชีวิต และ ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับ - ส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถรับ-ส่งของโรงเรียน (กิดเหตุการณ์บ่อยครั้งมากขึ้น จากการลืมเด็กในรถ ขนทำให้เล็กขาคอากาหหายใจ นำไปสู่การเสียชีวิตและการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สาเหตุคังกล่าวศูนย์พัมนาเด็กเล็กบ้านกะทิง เถึงเห็นว่ความสำคัญของความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัยและการลืมรถจึงได้ขัดโครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัย เพื่อที่จะช่วยเหลือตนเองเมื่อคิดอยู่ในรถยนต์อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลค จนมีความสูญเสียขึ้นอีก โดยสอนให้ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ระบบการทำงานของรถยนต์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อเอาตัวรอด ประกอบด้วยแนะนำเกี่ยวกับระบบเซ็นทรัสล็อคของรถยนต์ แนะนำเกี่ยวกับระบบการป้องกันการใช้เสียงแตรงากค้านใน ลกระจกประตูรถ การใช้สัญญาณไฟถูกเฉิน การใช้แตร และแนะนำให้เค็กมาเปิดประตูจากฝั่งคนขับ จากนั้นก็ต้องทดตองให้เด็กลองปฏิบัติจริง นอกจากนั้นควรสร้างองค์ความรู้ ให้แก่ครูชัดูแลเค็กและเด็ก ในเรื่องตังกล่าวด้วยเพื่อสร้างความใดใจ เพราะถึงแม้จะสอนให้เด็กมีความรู้แก้ไขสถานการณ์คับขัน แต่ผู้ใหญ่ก็ควรมีสติอยู่ตลอดเวลา ครวจคราภายในรถยนต์ให้ละเฮียดรอบคอบว่ารถซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกอยู่เสมอ ครู ผู้ปกครอง หากเกิดพลาดพตั้ง ไปจะเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ถึงชีวิตได้ ดังนั้นทางศูนย์พัฒนาค็กเล็กบ้านกะทิง จึงได้จัดทำใครงการส่งเสริมความปลอดภัยของเด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเด็กบ้านกะทิงขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ กฏจราจรวิธีสวมหวมกนิรภัยที่ถูกต้อง
2. เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กมีความรู้ รู้จักวิธีการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ
3. เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กปฏิบัติตนเบื้องต้น (สวมหมวกนิรภัยและเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ)
4. เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

1. จัดอบรมให้ความรู้ความเขาใจ ส่งเสริมความปลอดภัยของเด็กปฐมวัย
2. อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย
3. อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ผู้ปกครองและเด็กมีความรู้ความเข้าใจของความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัย 2.ผู้ปกคองและเด็กมีความสามารถนำความรู็ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3.ผู้ปกครองและเด็กรู้การเอาตัวรอดโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง เมื่อติดอยู่ในรถ 4.ผู้ปกครองและเด็กมีความตระหนักถึงอันตรายจากการไม่สวมหมวกนิรภัย

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น