โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
| ชื่อโครงการ | โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก |
| รหัสโครงการ | 66-L4134-1-1 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบันนังสาเรง |
| วันที่อนุมัติ | 6 กรกฎาคม 2566 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - 30 กันยายน 2566 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | |
| งบประมาณ | 17,020.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสุภาวณี ยูโซ๊ะ |
| พี่เลี้ยงโครงการ | |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบันนังสาเรง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.48,101.258place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 122 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งของสตรีในประเทศไทย ซึ่งทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในสตรี พบได้ถึง 3 คน ในประชากรหนึ่งแสนคน ในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปาดมดลูกเสียชีวิต ประมาณ 4,500 ราย ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 30-50 ปี ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจมะเร็ง ปากมดลูกด้วยการตรวจ Pap Smear ถึงแม้กระบวนการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก จะง่าย สะดวก ราคาถูก แต่ยังพบว่าสตรีจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญมีทัศนคติ ที่ไม่ดีต่อการตรวจ Pap Smear ส่วนโรคมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องทำการตรวจค้นหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมากในการค้นพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้และการรักษาอาจทำได้โดยการตัดเฉพาะก้อนมะเร็งออก ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดทั้งเต้านม ในทางตรงกันข้ามหากไม่มีการตรวจค้นหามะเร็งเต้านมรอจนกระทั่งมีอาการผิดปกติ มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สถานการณ์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ในเขตพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบันนังสาเรงพบว่ากลุ่มเป้าหมาย 1,363 ราย ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปี 2565 จำนวน 146 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.55 การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาและยากที่เข้ารับการตรวจและการติดตามเข้ารับการบริการ ส่วนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองกลุ่มเป้าหมาย 35 ปีขึ้นไปจำนวน 1,584 ราย ได้รับการคัดกรอง 1,162 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.36 (ข้อมูล HDC วันที่ 30 กันยายน 2565) ที่ไม่พบความผิดปกติ อาจเกิดจากการตรวจที่ไม่ถูกต้อง เทคนิคหรือแบบการตรวจคัดกรองที่มีความซับซ้อนไม่เข้าใจ พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายประชาชนอายุ 30-60 ปี ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบันนังสาเรง จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ปี 2566 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคมะเร็งเตานมและมะเร็งปากมดลูกต่อไป
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | 1.ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-70 ปี มีความรู้และมีทักษะในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง รวมเป็น 150 คน 1.เพื่อประชาชนอายุ 30-70 ปี มีความรู้และมีทักษะในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง ร้อยละ 100 |
||
| 2 | 2. ประชากรกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-70 ปีได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกตามมาตรฐาน อย่างมีคุณภาพ 2.เพื่อประชาชนอายุ 30-70 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ร้อยละ 100 |
| รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
1.สตรีกลุ่มเป้าหมายสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้องและต่อเนื่องเป็นประจำ 2.พบผู้ป่วยรายใหม่ของมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 3.ครอบครัว ชุมชน และสังคม มีความตระหนักในเรื่องมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2566 12:06 น.